นครพนม 6 ก.พ. – คดีเจ้าของสนามชนไก่คนดัง จ.ชุมพร หายตัวปริศนา ผ่านไป 3 วัน ตำรวจพบรถจอดทิ้งที่นครพนม เร่งตรวจหาลายนิ้วมือแฝงพร้อมเก็บดีเอ็นเอในรถอย่างละเอียด ส่วนตัวคนยังไม่รู้ชะตากรรม
ความคืบหน้า การหายตัวอย่างปริศนา ของนายขนบ สมหวัง หรือ โกหมาส อายุ 56 ปี จากบ้านที่จังหวัดชุมพร พร้อมรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนชุมพร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมา พี่ชาย ได้เดินทางไปแจ้งความ และให้บริษัทที่จำหน่ายรถยนต์ตรวจดูตำแหน่งจีพีเอสในรถ พบว่าวันที่ 2 ก.พ. จีพีเอสจับความเคลื่อนไหวว่ารถจอดอยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ แต่เมื่อตำรวจไปถึงรถได้หายไปแล้ว หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยคาดว่าจีพีเอสน่าจะถูกถอดออก
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้แกะรอยจาพภาพกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางจากบ้านพักของโกหมาส ไปถึงแยกเขาปีบเขตอำเภอทุ่งตะโก และถนนสายเอเซีย 41 มุ่งหน้าอำเภอหลังสวน ชุมพร พบว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งกล้องวงจรปิดบนถนน ได้จับภาพชายนิรนามใส่แว่นขับรถคันดังกล่าว แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และพบว่ารถได้ขับมุ่งหน้าไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นขับวกกลับขึ้นมาแล้วไปจอดนอนพักอยู่ในลานจอดรถยนต์แห่งหนึ่งระหว่างเขตแดน จ.สมุทรสาคร และฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร ไม่นานก็ขับมุ่งหน้าขึ้นไปทางภาพตะวันออกเฉียงเหนือ จนกระทั่งตำรวจตามไปพบจอดทิ้งไว้ในป่าใกล้ฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ตำบลหนองญาติ อ.เมืองนครพนม เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ของวันที่ 4 ก.พ.
สำหรับรถฟอร์จูนเนอร์ คันนี้ นางวันเพ็ญ หรือเจ๊อ้วน ผู้ครอบครองรถได้แจ้งความไว้ที่ สภ.สวี ว่ารถได้หายไปพร้อมกับนายขนบ สามีของตัวเอง เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 ตำรวจทางหลวงสกัดตามเส้นทางหลักที่คาดว่าจะขับผ่าน จนคนร้ายได้เปลี่ยนเส้นทางเข้าถนนสายรองตามหมู่บ้าน แล้วนำมาจอดซุกไว้ที่ป่ายาง ข้างศูนย์พัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมกับทิ้งกุญแจรถไว้ในรถ
พ.ต.อ.จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน นครพนม ได้สั่งการให้ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานนำรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีการตรวจลายนิ้วมือแฝงภายในรถ และรอบๆ ตัวรถ พร้อมเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ภายในรถอย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีต่อไป เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้เป็นคดีโจรกรรมรถธรรมดา แต่มีคนสูญหายไปด้วย ซึ่งหากสอบสวนพบว่ามีการลักพาตัวและผู้สูญหายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะต้องเก็บหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดเพื่อใช้เป็นหลักฐานทางคดีต่อไป
เบื้องต้นเจ๊อ้วน แจ้งว่าจะมาดูรถและรับรถกลับในวันนี้ แต่ล่าสุดตำรวจได้รับแจ้งจากเจ๊อ้วนว่า ยังไม่สามารถมารับรถได้เนื่องจากยังต้องให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.สวี จังหวัดชุมพรให้แล้วเสร็จเสียก่อน แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ และจากข้อมูลกจากญาติ “โกหมาส” เบื้องต้นตำรวจคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว และเรื่องการเงิน เพราะก่อนหน้านั้นทราบว่า โกหมาส มีภรรยาสองคน ภรรยาคนที่สองมีสามีจดทะเบียนด้วยกันอยู่แล้ว และเคยมีชายที่อ้างตัวว่าเป็นสามีของภรรยาคนที่สอง โทรมาข่มขู่ อีกประเด็นคือเรื่องเงินกู้ที่ภรรยาคนที่สองไปกู้เงินอกระบบมา โดยมีการบุกทวงถามกันถึงหน้าบ้าน แต่ยังไม่ฟันธงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย