ชัวร์ก่อนแชร์: CO2 จากลมหายใจสร้างสภาวะโลกร้อน จริงหรือ?

06 กุมภาพันธ์ 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์ในต่างประเทศ อ้างผลวิจัยที่พบว่าลมหายใจออกของมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีส่วนทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน พร้อมอ้างว่าลมหายใจออกของประชากรในสหราชอาณาจักรในระยะเวลา 1 ปี คิดเป็นสัดส่วน 0.1% ของปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่ปลดปล่อยภายในประเทศ


บทสรุป :

  1. คาร์บอนไดออกไซด์จากลมหายใจออก ไม่ถือเป็นการเพิ่ม CO2 ต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก CO2 จากลมหายใจมาจากการกินอาหารซึ่งมีต้นกำเนิดจากการสังเคราะห์แสงของพืชที่ใช้ CO2 ในการเจริญเติบโต
  2. แม้ลมหายใจออกจะมีมีเทนและไนตรัสออกไซด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแก๊สเรือนกระจก แต่ถือว่ามีในปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับอัตราการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากกิจกรรมอื่น ๆ ของมนุษย์

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ปริมาณ CO2 จากลมหายใจออก


ข้อมูลจากเว็บไซต์ Byju’s ระบุว่า ในอากาศที่หายใจเข้ามีอัตราส่วน CO2 ที่ 0.04% ส่วนลมหายใจออกมีอัตราส่วน CO2 ที่ 4.4%

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนพบว่า มนุษย์ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากหายใจออกเฉลี่ยวันละ 0.58 – 1.04 กิโลกรัม/วัน ปริมาณขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวัน

เว็บไซต์ BBC Science Focus เคยประเมินว่า ในแต่ละปี ลมหายใจออกของประชากรทั่วโลกจำนวน 6.8 พันล้านคน ปลดปล่อย CO2 ถึง 2.5 พันล้านตันต่อปี เทียบได้กับ 7% ของการปลดปล่อย CO2 จากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลในแต่ละปี

CO2 จากลมหายใจไม่เพิ่มแก๊สเรือนกระจกต่อโลก

แม้ CO2 จากลมหายใจของมนุษย์แต่ละปีจะมีปริมาณมหาศาล แต่ไม่นับว่าเป็นการเพิ่มปริมาณ CO2 ให้กับสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก CO2 ในลมหายใจมนุษย์ มีที่มาจากการบริโภคพืชและสัตว์ ซึ่งล้วนเป็นผลิตผลจากกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช ที่เปลี่ยน CO2 ในสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นสารประกอบอินทรีย์ และใช้เป็นอาหารที่มอบพลังงานให้กับมนุษย์ผ่านกระบวนการสันดาป ก่อนจะถูกปลดปล่อยจากร่างกายผ่านทางลมหายใจออกในรูปแก๊ส CO2

ดังนั้น CO2 จากลมหายใจมนุษย์ นับเป็นการคืนปริมาณ CO2 กลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม ไม่ถือเป็นการเพิ่มปริมาณ CO2 ที่เร่งการเกิดสภาวะเรือนกระจกแต่อย่างใด

ต่างจากการปล่อย CO2 จากกระบวนการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น การทำงานของรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) เนื่องจาก CO2 ที่ออกจากท่อไอเสีย มีที่มาจากสารประกอบอินทรีย์ที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นโลกนานนับล้านปี ดังนั้น CO2 ที่เกิดจากการนำเชื้อเพลิงฟอสซิลในอดีตกลับมาใช้ ถือเป็นการเพิ่มปริมาณ CO2 ให้กับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน และเร่งการเกิดสภาวะเรือนกระจก

มีเทนและไนตรัสออกไซด์ : แก๊สเรือนกระจกจากลมหายใจมนุษย์

แม้ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากลมหายใจมนุษย์จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสภาวะเรือนกระจก แต่แก๊สมีเทน (CH4) ที่เกิดจากแบคทีเรีย Methanogenic Bacteria ที่อยู่ในลำไส้ และแก๊สไนตรัสออกไซด์ (N2O) ที่เกิดจากแบคทีเรีย Denitrifying Bacteria ที่อยู่ในลำไส้และช่องปาก ถือเป็นแก๊สเรือนกระจกที่มนุษย์ปลดปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมผ่านทางลมหายใจออก

งานวิจัยของดอว์สันและคณะ ที่ตีพิมพ์ทางวารสารวิทยาศาสตร์ PLOS One เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2023 ได้สำรวจปริมาณมีเทนและไนตรัสออกไซด์จากลมหายใจออกของกลุ่มตัวอย่าง 328 ราย พบว่า 31% มีปริมาณมีเทนในลมหายใจและทุกรายต่างพบไนตรัสออกไซด์ในลมหายใจ

ดอว์สันและคณะนำค่าที่พบไปเทียบกับจำนวนประชากรของสหราชอาณาจักรจำนวน 68.2 ล้านคน ก่อนได้ข้อสรุปว่า พลเมืองสหราชอาณาจักรปลดปล่อยมีเทนจากลมหายใจปีละ 1.04 ล้านกิโลกรัม และปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์จากลมหายใจปีละ 6.9 หมื่นกิโลกรัม

เมื่อเทียบกับการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกโดยรวม มีเทนจากลมหายใจมนุษย์คิดเป็นสัดส่วน 0.05% ของการปลดปล่อยมีเทนสู่สิ่งแวดล้อม ส่วนไนตรัสออกไซด์จากลมหายใจมนุษย์คิดเป็นสัดส่วน 0.1% ของการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อม

ผลวิจัยจึงสรุปว่า ลมหายใจของมนุษย์มีส่วนเพิ่มแก๊สเรือนกระจกในสิ่งแวดล้อมเพียง 0.013% เท่านั้น ถือว่าน้อยกว่าปริมาณที่เคยสำรวจในอดีต

การบิดเบือนของสื่อที่ต่อต้านทฤษฎีสภาวะโลกร้อน

ผลวิจัยถูกสื่อที่ต่อต้านทฤษฎีสภาวะโลกร้อนหลายสำนักไปบิดเบือนว่านักวิทยาศาสตร์พยายามทำให้คนตื่นกลัวสภาวะโลกร้อนเกินจริง บางเจ้าพาดหัวข่าวบิดเบือนว่าลมหายใจของมนุษย์มีส่วนเพิ่มแก๊สเรือนกระจกในส่งแวดล้อมถึง 0.1% ซึ่งมากกว่าผลวิจัยถึง 8 เท่า

ดร.นิโคลัส โคแวน จากศูนย์นิเวศวิทยาและอุทกวิทยา สหราชอาณาจักร เจ้าของงานวิจัยร่วม ได้ชี้แจงต่อเว็บไซต์ The Conversation ว่า แก๊สเรือนกระจกจากลมหายใจมนุษย์ ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลอย่างมาก ดังนั้นประชาชนที่ต้องการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก สมควรหายใจตามปกติและร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://climatefeedback.org/claimreview/contrary-widespread-misrepresentation-new-study-finds-extremely-minimal-impact-human-breathing-climate/
https://byjus.com/biology/composition-gases-breathe/
https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0295157
https://risc.in.th/knowledge/does-the-carbon-dioxide-we-breathe-out-hurt-the-world
https://www.sciencefocus.com/planet-earth/how-much-does-human-breathing-contribute-to-climate-change
https://www.mcgill.ca/oss/article/environment-quirky-science-you-asked/humans-and-animals-exhale-carbon-dioxide-every-breath-why-not-considered-be-problem-far-global

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี