รัฐสภา 1 ก.พ.-‘ชัยธวัช’ เชื่อคำวินิจฉัย ศาล รธน. ไม่กระทบความสัมพันธ์ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” บอก “ดินเนอร์คืนนี้” ไม่มีวาระพิเศษ แค่สร้างความคุ้นเคย
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการนัดรับประทานอาหารค่ำของพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า เป็นการนัดรับประทานอาหารกันตั้งแต่การประชุมเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะส่วนใหญ่หลายพรรคไม่เคยทำงานร่วมกันใกล้ชิด
ดังนั้น แทนที่จะประชุมกัน เพื่อให้มีความใกล้ชิด รู้จักกัน ก็น่าจะนัดรับประทานอาหารกันสักครั้งระหว่างผู้บริหารและสมาชิกของพรรค เป็นนัดรับประทานอาหารปกติ ไม่ได้มีวาระอะไร กระชับความสัมพันธ์ อย่างเช่น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้มีโอกาสได้เจอกันในสภา จะได้คุยกัน
ส่วนจะถูกเปรียบเทียบกับการนัดรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า จริงๆ ก็เป็นเรื่องปกติของสภาทุกสมัย ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร ส่วนจะคุยเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ ก็คุยได้ทุกเรื่อง ไม่ได้มีวาระประชุมอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามต่อว่า กังวลว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้กระทบแน่นอน แม้ว่าเราจะมีความเห็นหรือข้อวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน สิ่งที่แถลงเมื่อวาน เป็นความกังวลว่าคำวินิจฉัยแบบนี้จะส่งผลอะไรได้บ้างในอนาคต ซึ่งก็เป็นเรื่องที่อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ มากกว่าเรื่องของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ว่าไม่ยินยอมคำพิพากษา เพราะมีผลทางกฎหมายไปแล้ว
ส่วนกังวลหรือไม่หากมีการยุบพรรคก้าวไกลจริงๆ จะมีการซื้อตัว สส. ไปจากพรรค นายชัยธวัช หันไปหาบรรดา สส.พรรคก้าวไกลที่อยู่ด้านหลัง พร้อมกล่าวว่าก็ต้องถาม สส. ตนก็ไม่รู้ แต่คิดว่าเราได้เห็นจากครั้งที่แล้ว คนที่ออกจากพรรคก้าวไกลไปสอบตกหมด คนที่ยังอยู่กับเราสามารถกลับมาได้หมด
“ผมไม่สนใจ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมสนใจว่า เราจะทำงานให้ประชาชนยอมรับต่อได้อย่างไร เรื่องนี้ตัดสินใจที่ประชาชน” นายชัยธวัช กล่าว
สำหรับเรื่องการปรับกรรมการบริหารพรรคหากมีการยุบพรรคจริงๆ นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า “อย่าเพิ่งรีบคุยกันเลย สมัยอนาคตใหม่ทุกคนก็เป็นห่วง แต่ตนคิดว่าเราก็เติบโตขึ้น แต่ที่สำคัญคือเรายังไม่ถูกยุบ ผมยังอยู่ ใจเย็นๆ อย่าพูดว่ายิ่งยุบยิ่งใหญ่เลย พูดแบบนั้นเหมือนเรายิ่งยอมรับว่าการยุบพรรคเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่น่ายินดี ซึ่งผมยืนยันทุกครั้งว่าไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่ายินดี”
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวได้ประเมินถึงการยุบพรรคไว้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวยอมรับว่า มีความเสี่ยง อย่างน้อยวันนี้ก็มีคนไปร้องแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด.-312.-สำนักข่าวไทย