ป.ป.ช.19 ม.ค.“ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม “ศักดิ์สยาม” หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งพ้นตำแหน่ง จากปมถือหุ้น พร้อมเตรียมร้องกกต.ยุบพรรค ภท.สัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เอาผิดจริยธรรมร้ายแรงกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยระบุว่าจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลง เนื่องจากฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วน และหุ้นส่วนของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4 อนุมาตรา 1 ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 1 อนุมาตรา 5 แต่เรื่องนี้ไม่จบลงที่การสิ้นสุดของการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งนายศักดิ์สยามก็ออกมาจากตำแหน่งรัฐมนตรีตั้งแต่การเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2566 แต่เนื่องจากผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นศาลองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นใด ดังนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นที่สุดแล้ว ก็ย่อมจะผูกพันหน่วยงานอิสระอย่าง ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งการที่นายศักดิ์สยาม ได้นำเสนอบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไว้ยัง ป.ป.ช. ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จโดยชัดเจน เพราะว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยามยังคงเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของหุ้นส่วนที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องดำเนินการในเรื่องของการแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ รวมทั้งประเด็นมาตรฐานทางจริยธรรมด้วย ซึ่งน่าจะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในหลายๆ ข้อ โดยศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีมาตรฐานออกมาชัดเจนไว้ตั้งนานแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความจำเป็นต้องให้ ป.ป.ช.ลงดาบที่สองกับนายศักดิ์สยามต่อไป
“เมื่อ ป.ป.ช. ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็เป็นหน้าที่ที่จะไปดำเนินการเอาผิดและลงโทษคุณศักดิ์สยามต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีการเว้นวรรคทางการเมือง ไม่ใช่แค่ 1-2 ปี แต่จะต้องเป็น 10 ปี ซึ่งก็หมดสิ้นอนาคตทางการเมือง ซึ่งนอกจากดาบสองแล้ว ยังมีดาบสาม ดาบสี่ ดาบห้า ตามมาอีก เพราะกรณีเยี่ยงนี้ เราไม่ควรให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมือง หรือพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะไม่เช่นนั้น นักการเมืองจะใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองหลบเลี่ยง การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้วให้นอมินีมาดำเนินการ ในขณะที่ตัวเองมีอำนาจในกระทรวง ทบวง กรม แล้วก็สามารถเข้ามาประมูลงานแข่งกับคนอื่น ยิ่งทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ต้องมายื่นให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ส่วนดาบที่สองคือการหมดอนาคตทางการเมือง แต่ไม่ใช่เรื่องของการยุบพรรคใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องการยุบพรรคเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตอนนี้ดำเนินการในเรื่องของนายศักดิ์สยามก่อน ส่วนเรื่องยุบพรรคก็ต้องดำเนินการต่อไป เพราะบอกแล้วว่าจะต้องมีไม้สามไม้สี่ต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนเป็นที่สุดแล้ว และผูกพันกับหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง จะเฉไฉเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โดยในสัปดาห์หน้า ตนจะไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ในเรื่องของการยุบพรรคต่อไป
ทั้งนี้ การที่นายศักดิ์สยามลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และ สส.พรรคภูมิใจไทยแล้ว ถือว่ายังไม่จบใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ความผิดเกิดขึ้นในขณะที่นายศักดิ์สยามดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การลาออกจากตำแหน่ง สส. และเลขาธิการพรรคไม่เกี่ยวเลย เพราะความผิดเกิดขึ้นระหว่างที่ดำรงตำแหน่งไปแล้ว ผลผูกพันมาตั้งแต่การดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว.-314.-สำนักข่าวไทย