วอชิงตัน 19 ม.ค. – นักวิเคราะห์ระบุว่า เหตุการณ์ที่อิหร่านและปากีสถานผลัดกันโจมตีกันในสัปดาห์นี้ และจุดกระแสวิตกว่าจะสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้าง เป็นความขัดแย้งยาวนานที่มีสาเหตุมาจากพื้นที่พรมแดนที่ไม่สงบ
ซูแซน มาโลนี รองประธานและผู้อำนวยการนโยบายต่างประเทศของสถาบันบรู๊คกิ้งส์ในสหรัฐเผยว่า พื้นที่ตามพรมแดนของอัฟกานิสถาน ปากีสถานและอิหร่านมีความขัดแย้งมายาวนาน เธอเชื่อว่ามีความพยายามอย่างมากที่จะสร้างหลักประกันว่ากองทัพของแต่ละฝ่ายจะไม่โจมตีกัน เห็นได้จากการที่อิหร่านและปากีสถานต่างระบุว่า โจมตีกลุ่มติดอาวุธ อย่างไรก็ดี อิหร่านพยายามแสดงให้เห็นว่า สามารถใช้ตัวแทนในการทำให้สหรัฐและอิสราเอลรู้สึกถูกกดดันทั่วภูมิภาคมากขึ้น หวังให้สหรัฐลดบทบาทในภูมิภาคนี้ ทั้งเรื่องให้การสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซาและเรื่องประจำการกองกำลังตามพื้นที่ต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้มานาน
อิหร่านสร้างความวิตกไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง ด้วยการยิงขีปนาวุธเมื่อวันอังคาร โจมตีพื้นที่ที่ระบุว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมซุหนี่สายเคร่งศาสนา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถานที่อิหร่านอ้างว่าโยงใยกับกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) จากนั้นในอีก 2 วันต่อมา ปากีสถานโจมตีตอบโต้ในพื้นที่ที่ระบุว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธแยกดินแดนในอิหร่าน นับเป็นครั้งแรกที่อิหร่านถูกโจมตีทางอากาศนับจากสงครามอิหร่าน-อิรักปี 2523-2531 การตอบโต้ดังกล่าวเพิ่มความกังวลเรื่องความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลางที่เริ่มขึ้นเมื่อเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาสในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 จากนั้นพันธมิตรอิหร่านอย่างฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและฮูตีในเยเมนได้โจมตีเป้าหมายของสหรัฐและอิสราเอล รวมถึงการเดินเรือพาณิชย์ในทะเลแดงเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา.-814.-สำนักข่าวไทย