จ.เชียงใหม่ 12 ม.ค.- “เศรษฐา” เผย ยกหูคุย “ฮุนมาเนต” แล้ว ตั้งคณะทำงานร่วมแก้ไฟป่า หมอกควัน เตรียมประชุมวงเล็กที่จ.สระแก้ว ก่อนนัดลงพื้นที่ดูปัญหาจริงด้วยกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการนำนักธุรกิจลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่า นักธุรกิจใหญ่ ๆ จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องของหลักสูตรรวมมิตร โดย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ซึ่งรู้จักกันมานานตั้งแต่เด็ก ได้พูดคุยในหลาย ๆ วง เรื่องการมารวมตัวพบปะสังสรรค์ถือเป็นเรื่องดี ถือเป็นการสร้างเครือข่ายช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เหนือสิ่งอื่นใดต้องทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น จึงคิดว่าเราควรมาเริ่มต้นที่โครงการพระราชดำริ ซึ่งทีมงานกำลังจัดการและคิดว่าจะไปเยี่ยม 2 แห่ง
“ไม่ได้ต้องการให้นักธุรกิจใหญ่หรือเจ้าของกิจการมาแค่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือมาบริจาคอย่างเดียว พูดง่าย ๆ เราไม่ต้องการเงินแต่ต้องการความรัก ความตั้งใจ ที่จะมาบูรณาการความช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่ ๆ ทำให้โครงการพระราชดำริ ซึ่งมีราษฎรทำมาหากินเยอะมาก ปลูกผักและสินค้าต่าง ๆ อยากให้เขามีตลาดที่แข็งแกร่งขึ้น โดยให้นักธุรกิจใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถเชิงพาณิชย์มาช่วยกันอย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันเรื่องการท่องเที่ยวก็เป็นเรื่องใหญ่ วันนี้นักท่องเที่ยวมาเยอะมาก โดยเฉพาะเกาหลี เนื่องจากรัฐบาลเปิดสนามบินเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง ขึ้นลงได้รอบดึกหลังเที่ยงคืนจึงทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาเที่ยวเยอะขึ้น ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าและใช้เงินได้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทั้งนี้จะมีการพูดคุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะต้องมีการจัดทำโรดโชว์เกาหลีมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเช้าได้ไปงานฉลองชาติพันธุ์ลาหู่ มีคนมาร่วมงานหลายพันคนจากหลายประเทศและน่าชื่นชมชาติพันธุ์ต่าง ๆที่ มาอยู่ในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สร้างงานสร้างอาชีพโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานต่อ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเรา ต้องให้ความเป็นธรรมหากสืบทราบได้เขาเกิดที่นี่ก็ควรได้สิทธิขั้นพื้นฐานโดยไม่ต้องจ่ายพิเศษอะไร ทั้งการศึกษา สาธารณสุข และการประกอบอาชีพ รัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญและดูแลอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าพี่น้องชาติพันธุ์ จะสบายใจได้ และอีก 1-2 เดือนนี้ ตนจะลงพื้นที่โดยขึ้นบนเขาไปพูดคุยกับชาติพันธุ์ต่างๆ น่าจะเห็นทางออกให้กับทุกท่านได้ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจึงอยากจะมาลองดูเอง
ส่วนการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่หลายรอบ ต้องการเห็นเชียงใหม่บูมเรื่องการท่องเที่ยวอย่างจริงจังใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายเรื่อง ที่จังหวัดภูเก็ต ขอนแก่น อุดรธานี ก็ไป และยังมีอีกหลายจังหวัดที่ไม่ได้ไป จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเยอะศักยภาพสูง เป็นจุดศูนย์กลางของล้านนา หากเราสามารถทำให้เจริญเติบโตได้จังหวัดรอบๆจะเกิดความแข็งแกร่งขึ้น ทั้งเชียงราย ลำปาง พะเยา ลำพูน แต่ของพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นวันเดียว จะต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภคด้านคมนาคมด้วย เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ควบคู่กับการดูแล Pm 2.5 โดยคุยกันเชิงลึก การมาวันนี้เพื่อตอกย้ำว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี จุดฮอตสปอร์ตเริ่มลดลง อย่างไรก็ตามเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านก็มีความสำคัญ และช่วงนี้กัมพูชามีการเผาเกิดขึ้น
“4 ทุ่มกว่าเมื่อคืนผมโทรคุยกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เห็นพ้องกันตั้งคณะทำงานร่วมและฮอตไลน์คุยกันได้ตลอด บ่ายนี้น่าจะมีแถลงการณ์เป็นทางการ เพราะท่านตระหนักปัญหานี้ ซึ่งปัญหาของเราขึ้นกับทิศทางลมด้วย ถ้าเราเผาอาจไปทางเขา เขาเผาอาจมาทางเรา จึงต้องเป็นความร่วมมือทั้งสองประเทศ ดีใจที่ผู้นำกัมพูชาให้ความสำคัญและพูดคุยกัน เมื่อเช้านี้ทางสำนักงานเลขาฯได้ติดต่อกันแล้ว จะตั้งคณะทำงานโดยอาจจะใช้จิสด้าของเราเป็นจุดศูนย์กลางในการวัดค่าฮอตสปอร์ต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง จะได้ชี้เบาะแสได้ว่าตรงไหนมีการเผาเยอะ หากเราไม่ประชุมกัน ก็อาจจะไม่ทราบ พื้นที่ตรงนี้ถือว่าสำคัญ ไม่ใช่เพียงมาส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือเศรษฐกิจอย่างเดียว สิทธิพื้นฐานของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เรื่องอากาศสะอาดและพระราชบัญญัติอากาศสะอาดได้เข้าสภาฯ เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่จบเข้าใจว่ามีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่อาทิตย์หน้าก็น่าจะจบได้
เมื่อถามว่ามีโอกาสจะลงพื้นที่ร่วมกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แน่นอนหากจำได้ครั้งที่ตนเดินทางไปจังหวัดสระแก้ว ดำริว่าจะประชุมวงเล็กที่นั่น ซึ่งต้องดูก่อนเพราะสมเด็จฮุนมาเนต จะมาไทยวันที่ 7 ก.พ. จะพูดคุยกันเรื่องนี้และนัดกันในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการลงพื้นที่จริง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพราะเป็นจุดศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การค้าระหว่างสองประเทศ และถือโอกาสพูดคุยกันในหลายเรื่อง ถือว่าดีเพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการพูดคุยกันได้อย่างดี ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารได้มีการพูดคุยกับผู้นำเมียนมาร์ เรื่องยาเสพติดและหมอกควันไฟป่า Pm2.5 ตรงนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้ปัญหายังมาไม่เยอะ ยังไม่ได้เข้าไฮซีซั่นแต่เราต้องมีการป้องกันไว้ก่อน ให้ต้องขอบคุณทุกฝ่ายให้ความสนใจจริงๆ .-316.-สำนักข่าวไทย