ทำเนียบรัฐบาล 9 ม.ค.- เลขาฯ กฤษฎีกา มั่นใจ หากรัฐบาลทำตามเงื่อนไข การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีปัญหา แจง ไม่ได้ใช้คำว่า ไฟเขียว ย้ำ ทำตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้ส่งความเห็นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเรื่องการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า คณะกรรมการได้ส่งความเห็นไปให้ ครม. แล้ว แต่จะต้องเข้าคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ก่อน และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด แต่ยังไม่มีคำว่าไฟเขียว เนื่องจากกฤษฎีกาตอบได้เพียงข้อกฎหมายเท่านั้น ซึ่งต้องดูว่าที่กำหนดไว้ในมาตรา 53 มีอะไรบ้าง โดยเงื่อนไขจะต้องเป็นเรื่องที่แก้ไขอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขวิกฤติของประเทศ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ พร้อมย้ำว่าตนตอบได้เพียงแค่นี้ เพราะเป็นนักกฎหมาย แต่สำหรับมาตรา 53 สามารถออกเป็นกฏหมายได้ ส่วนจะเป็นพระราชบัญญัติ หรือ พระราชกำหนดก็แล้วแต่ เพราะถือเป็นกฎหมายทั้งคู่
ส่วน ข้อเสนอแนะที่ให้ไปมีอะไรบ้างนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีอะไร เป็นเพียงการอธิบายมาตรา 53 ที่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ และจะต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตนเป็นนักกฎหมายไม่สามารถชี้นำได้ ต้องใช้ข้อมูลตัวเลขที่เป็นตามหลักวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ ความเห็นของกฤษฎีการับประกันได้หรือไม่ว่า รัฐบาลจะทำอะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย นายปกรณ์ ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่สามารถใช้อ้างอิงได้ เพราะเรายึดตามมาตรา 53 มาตรา 6 มาตรา 7 และ มาตรา 9 รวมทั้ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ฉะนั้นยืนยันว่า หากทำตามแล้วปลอดภัยแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากเกิดปัญหารัฐบาลจะสามารถอ้างคำของกฤษฎีกาเป็นเกราะได้หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ถ้าทำตามเงื่อนไขก็ไม่มีปัญหา ส่วนการที่รัฐบาลอ้างว่าGDP โตไม่ทันนั้น คงไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องเศรษฐกิจได้
ส่วนหากเป็นภาวะวิกฤตแล้ว รัฐบาลตราเป็นพระราชบัญญัติจะย้อนแย้งหรือไม่ นายปกรณ์ ย้ำว่า ไม่เป็นไร เพราะกฎหมายวินัยการเงินการคลังบอกให้กู้ได้ ซึ่งกฎหมายก็จะมีพระราชบัญญัติ และพระราชกำหนด ก็ทำได้ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ส่วนแบบไหนปลอดภัยมากกว่ากันนั้น ก็ปลอดภัยทั้งคู่ หากถูกเงื่อนไข
สำหรับกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า กฤษฎีกาไฟเขียว สามารถใช้คำนี้ได้หรือไม่ ส่วนตัวเข้าใจว่าท่านไม่ได้ใช้คำว่า ไฟเขียว เพราะตนที่ไม่ใช่ตำรวจจราจร
“ยืนยันว่า ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ มั่นใจว่าไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะเวลารัฐบาลทำอะไรก็ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่ถูกต้อง เชื่อมั่นว่าทุกคนยืนอยู่บนข้อเท็จจริงเหมือนกัน”นายปกรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยังย้ำว่า รัฐบาลถามมาเพียงแค่คำถามเดียว คือจะสามารถออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินได้หรือไม่ แต่ไม่มีถามเพิ่มเติมกรณีมองว่าสถานการณ์วิกฤติหรือไม่.-318.-สำนักข่าวไทย