กาญจนบุรี 4 ม.ค. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนขับรถยนต์มักง่ายแซงข้ามเลนชนรถพ่วงข้าง ทำให้ยายและหลานชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิต ส่วนหลานสาววัย 9 ขวบ เจ็บสาหัส ก่อนทิ้งรถหลบหนี ล่าสุดตำรวจตรวจสอบจากป้ายทะเบียนรถ รู้แล้วว่าเจ้าของรถคือใคร
เหตุเกิดบนถนนเลียบคันคลองชลประทาน หลังสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อย เขต 7 ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี รถจักรยานยนต์พ่วงข้างถูกชนจนพังยับเยินกระเด็นตกอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบศพนางสาวอุทิตย์ อายุ 52 ปี และเด็กชาย 2 ขวบ เสียชีวิตอยู่ใกล้กับซากรถพ่วงข้าง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กหญิงอีก 1 คน อายุ 9 ขวบ อาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังพบรถยนต์มาสด้าสีเทาจอดอยู่ริมถนน สภาพด้านหน้ามีร่องรอยการชนจนพังเสียหายยับเยิน ป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกถอดออกวางกองอยู่กับพื้น แต่ไม่พบตัวคนขับหรือผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถ
ชาวบ้านที่ผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสาวอุทิตย์ซึ่งมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายไก่ย่าง ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากบ้านเพื่อไปส่งหลานทั้ง 2 คน ที่โรงเรียน และศูนย์เด็กเล็ก ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถยนต์คู่กรณีซึ่งอยู่เลนฝั่งตรงข้าม พยายามขับแซงรถบรรทุกที่ขับนำหน้าจนข้ามเลนมาชนประสานงากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างอย่างแรง ร่างของนางสาวอุทิตย์และหลานทั้ง 2 คน กระเด็นออกจากรถตกลงไปข้างทาง นางสาวอุทิตย์และหลานชายเสียชีวิตคาที่ ส่วนหลานสาวบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุกลุ่มชายและหญิงที่อยู่ภายในรถยนต์ 4 คน ลงจากรถมาถอดแผ่นป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวออก หันมาเห็นชาวบ้านที่ผ่านมาพบเหตุการณ์จึงทิ้งป้ายทะเบียน ก่อนเดินไปขึ้นรถของเพื่อนอีกคนที่ขับมารอรับอยู่หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูศพถึงกับร่ำไห้อย่างหนัก โดยเฉพาะสามีผู้ตาย ถึงกับกอดศพภรรยาและหลานร้องไห้ด้วยความเสียใจ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ทั้งเรียกร้องให้คนขับรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุดตำรวจสถานีตำรวจภูธรลูกแก ตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าว ทราบชื่อเจ้าของรถแล้ว ซึ่งจะเรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อหาตัวคนขับและคนที่นั่งอยู่ในรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย