นักวิชาการ-เอดีบีมองเศรษฐกิจครึ่งปีหลังดีขึ้น

ท่าพระจันทร์  24 ก.ค. – นักวิชาการ มธ. – เอดีบี มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังดีขึ้น  ขณะที่เอกชนหวั่นส่งออกซึมยาว 20 ปี เหตุประเทศไทยไม่มีอำนาจขึ้นราคาสินค้า



ในงานเสวนา ” จับตาทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง กระเตื้องขึ้นหรือซึมยาว” ของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  นายเฉลิมพงษ์  คงเจริญ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  กล่าวว่า เศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก โดยอัตราการเติบโตปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 3.58 มากกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าโตร้อยละ 11.30 ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว คาดว่าทั้งปีโตร้อยละ 3.2 ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวร้อยละ 5.2 ส่วนการบริโภคภาคเอกชน คาดโตร้อยละ 3.7-3.8


อย่างไรก็ตาม หากการลงทุนภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชนไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้อาจโตลดลงเหลือร้อยละ 3.4 โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น หากค่าเงินบาทแข็งค่าเกินกว่าระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อาจกระทบการส่งออก ทำให้อัตราการเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้ อีกทั้งต้องติดตามการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว หากเมื่อครบกำหนด 6 เดือนที่รัฐบาลผ่อนผันแล้ว แรงงานต่างด้าวยังไม่กลับเข้ามาทำงานในไทย อาจส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้เช่นกัน

ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกยังคงซึมต่อเนื่อง 20 ปี การส่งออกไม่ได้กระเตื้องขึ้นอย่างตัวเลขที่เห็น เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าให้ดีขึ้นและไม่มีอำนาจทางการตลาดกำหนดหรือต่อรองราคาสินค้ากับประเทศคู่ค้าได้ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความสามารถด้านการแข่งขัน ไม่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะแข็งค่าหรืออ่อนค่าก็ถูกกดราคาสินค้าอยู่ดี ดังนั้น อัตราแลกเปลี่ยนจึงไม่มีผลต่อการขยายตัวของการส่งออก และเอกชนสามารถป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าได้ 


ด้านนางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า เอดีบียังคงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 3.5 ขณะที่ปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.6 โดยให้น้ำหนักที่การลงทุนภาครัฐเป็นหลัก ประกอบกับ การส่งออกกลับมาขยายตัวดีตามปัจจัยหนุนต่างประเทศ การค้าโลกที่ฟื้นตัวขึ้น 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงในประเทศที่ต้องติดตาม คือ การลงทุนภาครัฐหากล่าช้าจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเพราะเป็นปัจจัยหลักที่ให้น้ำหนักสูงสุด ขณะที่การจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว ถือเป็นปัจจัยเฉพาะหน้าที่รัฐบาลต้องแก้ไขระยะสั้น ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ การจัดการแรงงานทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ เพราะประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและปัจจุบันกำลังขาดแคลนแรงงานที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นรัฐบาลต้องปรับโครงสร้างแรงงานให้เป็นแรงงานที่มีทักษะและใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อให้รองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ไม่ใช่พึ่งพิงแรงงานต่างด้าวตลอดไป .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง