“เรืองไกร” ร้องตีความ กม.คดีอาญานักการเมือง ยันไม่ยื้อคดี “ยิ่งลักษณ์”

สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 24 ก.ค.-  “เรืองไกร” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญ   ตีความกฎหมายคดีอาญานักการเมืองไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ   ยืนยัน  ไม่ได้หวังช่วยยื้อคดี “ยิ่งลักษณ์” แต่เห็นว่าการตรากฎหมายไม่ถูกต้อง ก็ควรคืนความคืนความยุติธรรมและความชอบธรรม   


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน  กรณีขอให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ  เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามหน้าที่ และอำนาจในมาตรา มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (1) และมาตรา 212 วรรคหนึ่ง แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560  ใน 2 กรณี  คือ (1) บทบัญญัติของมาตรา 13 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542  ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่    และ (2)  พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542  พ.ศ. 2550 ตราโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่    


นายเรืองไกร กล่าวว่า บทบัญญัติของมาตรา 13  แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542  ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ  เนื่องจากเห็นว่าบทบัญญัติ มาตรา 13 วรรคสาม ที่แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี 2550  และการลงมติเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย  จึงทำให้ร่างตกไป   และแม้จะมีการขอแก้ไขเพิ่มเติม แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ    ข้อความในบทบัญญัติมาตรา 13 วรรคสาม  ที่แก้ไขเพิ่มเติมยังคงใช้อยู่มาถึงปัจจุบัน     ทั้งที่มีลักษณะเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ    

“ในกฎหมายมีการกำหนดอัตราส่วนบังคับใว้ในองค์คณะ 9 คน   ว่าจะมีผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาได้ไม่เกิน 3 คน    กรณีนี้จึงมีปัญหาตามมาว่าคดีต่างๆ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ดำเนินการไปแล้ว และกำลังดำเนินการอยู่ ยอมมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญตามไปด้วย” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร  กล่าวว่า ยังมีปัญหาการตรากฎหมายไม่ชอบ ในส่วนของการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542  ในการพิจารณาของ สนช.ปี 2550  เนื่องจากในวันที่ลงมติวาระ 3 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2550  ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 111 เสียง ไม่เห็นชอบ 1 เสียง   เท่ากับมี สนช.อยู่ในที่ประชุมเพียง 112 คน   ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ 239 คน    จึงถือว่าเป็นการตรากฎหมายที่ไม่ชอบ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ  โดยศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยร่างกฎหมายที่มีปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ ในการพิจารณาของ สนช.ชุดเดียวกันมาแล้ว 7 ฉบับ   ว่าเป็นการตรากฎหมายที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ


เมื่อถามว่า การยื่นเรื่องครั้งนี้เกี่ยวกับคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่  นายเรืองไกร  กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน  แต่เมื่อกฎหมายตราไม่ชอบ  ต่อให้คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินไปแล้ว ก็สามารถย้อนมาได้  ในรัฐธรรมนูญเขียนไว้  ถ้าไปดูหมวดของศาลจะเห็นได้ ใน มาตรา 210 – 214   พูดง่าย ๆ  เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ถ้ากระบวนการไม่ใช่ ก็ต้องคืนความยุติธรรม คืนความชอบธรรม   และที่มายื่นในครั้งนี้ก็ เพื่อประโยชน์ของกระบวนการยุติธรรม          .- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง