เอเชียแปซิฟิก 1 ม.ค.- ชาติในเอเชียแปซิฟิกเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2024 มีการจัดงานเคาต์ดาวน์และการแสดงพลุดอกไม้ไฟอย่างคึกคักยิ่งใหญ่ตระการตา
นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกๆ ที่เข้าสู่ปีใหม่ 2024 โดยเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าบ้านเราถึง 6 ชั่วโมง ท้องฟ้าเหนือตึก สกาย ทาวเวอร์ ความสูง 328 เมตรในนครโอ๊กแลนด์ ก็สว่างไสวจากการแสดงพลุดอกไม้ไฟต้อนรับปีใหม่ระยะเวลา 5 นาที ใช้พลุดอกไม้ไฟน้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการแสดงแสงสีเสียงและการแสดงแอนิเมชันควบคู่กันไปด้วย อีกทั้งยังมีการแสดงไฟอย่างอลังการ ที่สะพานฮาร์เบอร์ บริดจ์ ท่ามกลางความตื่นเต้นของประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
ตามติดด้วยการแสดงพลุดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่ 2024 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น หรือ 20.00 น. คืนที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา โดยเฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟสุดตระการตาจากอาคาร ซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ และสะพาน ฮาร์เบอร์ บริดจ์ อันโด่งดังเหมือนทุกปี ปีนี้ใช้ดอกไม้ไฟรวมน้ำหนักกว่า 8.5 ตัน การแสดงพลุดอกไม้ไฟครั้งนี้ นอกจากเป็นการเฉลิมฉลองรับปีใหม่ 2024 แล้ว ยังเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ของอาคารซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ อันเป็นสัญลักษณ์ของนครซิดนีย์แห่งนี้ด้วย มีนักท่องเที่ยวและผู้คนรวมตัวชมการแสดงพลุฉลองปีใหม่ในนครซิดนีย์ปีนี้กว่า 1 ล้านคน
ที่ไต้หวัน จัดงานเคาต์ดาวน์นับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พร้อมจุดพลุดอกไม้ไฟจากอาคารไทเป 101 สวยงามตระการตาตลอดระยะเวลา 5 นาที และเป็นครั้งแรกที่มีการนำพลุดอกไม้ไฟจากญี่ปุ่นมาร่วมจุดในงานด้วย ส่วนธีมของการแสดงแสงสีเสียงและพลุดอกไม้ไฟคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า โลกที่มีสีสัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์การกลับคืนสู่ภาวะปกติของปี 2024 หลังการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไต้หวัน
ที่ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของจีน จัดงานนับถอยหลังต้อนรับปีใหม่ 2024 ที่อ่าววิคตอเรียอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาไม่แพ้กัน มีการประดับนาฬิกาขนาดใหญ่เพื่อนับถอยหลังรับวันปีใหม่ที่ด้านหน้าของอาคารศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าฮ่องกง และเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญที่เป็นไฮไลต์ของงาน ทั่วพื้นที่อ่าววิคตอเรีย ก็สว่างไสวไปด้วยแสงสีและพลุดอกไม้ไฟ สวยงาม เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้รอชมงาน การแสดงพลุดอกไม้ไฟเคาต์ดาวน์ปีใหม่ในปีนี้ จุดต่อเนื่องนาน 12 นาที ถือเป็นการแสดงพลุดอกไม้ไฟรายการใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเท่าที่เคยจัดมา
ส่วนที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในตะวันออกกลาง จัดกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2024 ด้วยการจุดพลุและการแสดงแสงเลเซอร์อย่างยิ่งใหญ่ ที่ตึกเบิร์จคาลิฟา ในนครดูไบ ที่มีความสูงที่สุดในโลก 828 เมตร มีนักท่องเที่ยวทั้งคนในพื้นที่และชาวต่างชาติมาดูการจุดพลุยามค่ำคืนกันนับหมื่นคน นอกจากที่นครดูไบแล้ว ยูเออียังมีการแสดงโดรนและจุดพลุดอกไม้ไฟบริเวณริมแม่น้ำ เมืองราส อัลไคมาห์ อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ระบุในสาส์นปีใหม่ประจำปี 2024 ซึ่งบันทึกไว้ล่วงหน้าก่อนนำออกเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ในประเทศเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ยืนยันว่า การรวมชาติจีนกับไต้หวันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เป็นการเน้นย้ำจากที่สีเคยระบุในสานส์ปีใหม่เมื่อปีที่แล้วว่า ชาวจีนและไต้หวันก็เหมือนกับคนในครอบครัวเดียวกัน และเขาหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เพื่อให้ทั้งจีนและไต้หวันประสบแต่ความรุ่งเรืองเจริญรุดหน้า ผู้นำจีนยังเน้นย้ำว่า เศรษฐกิจจีนอยู่ระหว่างพลิกฟื้นและเดินหน้าสู่การขยายตัวอย่างยั่งยืนในปี 2024
ส่วนประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ส่งสาส์นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ผ่านโทรทัศน์ของรัฐบาล โดยแทบไม่ได้กล่าวถึงความขัดแย้งทางทหารกับยูเครนตลอดปีที่ผ่านมา เนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวชื่นชมกองทัพและทหารรัสเซีย พร้อมอธิบายปี2024 ว่าจะเป็นปีแห่งครอบครัว ที่จะเป็นแนวหลังคอยสนับสนุนให้รัสวเซียแข็งแกร่งและไม่มีวันยอมจำนน พร้อมส่งกำลังใจให้ทหารที่อยู่ในแนวหน้า ย้ำรัฐบาลจะสร้างหลักประกันด้านการพัฒนาประเทศ ยกระดับสวัสดิภาพของพลเมืองและรัสเซียจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น.815 .-สำนักข่าวไทย