เด้งรับ “มติคณะกรรมการไตรภาคี” ขึ้นค่าจ้าง 2-16 บาท/วัน

กรุงเทพ 20 ธ.ค. – สภาองค์การนายจ้างฯ เด้งรับมติ “คณะกรรมการไตรภาคี” ยึดขึ้นค่าจ้างอัตราเดิมที่ปรับขึ้น 2-16 บาท/วัน ตอกย้ำจุดยืนการเมืองไม่แทรกแซงหากเปลี่ยนแปลงเท่ากับจะสร้างบรรทัดฐานใหม่


นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า ต้องขอชื่นชมคณะกรรมการค่าจ้างหรือ ไตรภาคีโดยเฉพาะกรรมการฝ่ายลูกจ้างและนายจ้างที่ไม่ยอมให้ภาคการเมืองเข้ามาแทรกแซงโดยหลังจากที่มีการถอนวาระออกจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 ธ.ค.66 ทั้งที่เป็นวาระเพื่อทราบเพราะคณะกรรมการไตรภาคีได้มีมติเป็นเอกฉันท์ไปแล้วแต่การประชุมรอบ 2 ยังคงยืนยันมติเดิมโดยให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่ม 2-16 บาท/วัน หรือเพิ่มขึ้น 2.37% ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศโดยจังหวัดภูเก็ตปรับสูงสุดเป็น 370 บาท/วันหรือขึ้น 16 บาท/วันส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา)ขึ้น 2 บาท/วันเป็น 330 บาท/วัน เป็นต้น

“การประชุมไตรภาคีครั้งที่ 2 วันที่ 20 ธ.ค. ยืนยันค่าจ้างอัตราเดิมตามที่เคยมีมติไปแล้วเมื่อ 8 ธ.ค.66 ซึ่งสวนทางกับความต้องการของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ทบทวนค่าจ้างใหม่ซึ่งออกมาต่างจากการหาเสียงไว้ ประเด็นนี้ถือเป็นการยึดมั่นในหลักการของคณะกรรมการไตรภาคีโดยเฉพาะฝ่ายลูกจ้างที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง ซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐาน” นายธนิต กล่าว


ทั้งนี้การประชุมมีการชงเรื่องความเห็นของรัฐมนตรีและนำสูตรที่ใช้ในการคำนวณค่าจ้างซึ่งทางฝ่ายรัฐได้จัดทำขึ้นมาใหม่อาจทำให้ค่าจ้างสูงขึ้น เช่น กทม.ปรับขึ้นจาก 10 บาท/วันเป็น 26 บาท/วัน แต่ละจังหวัดก็จะปรับขึ้นในสัดส่วนดังกล่าวแต่ที่กรรมการฝ่ายลูกจ้างและนายจ้างเห็นว่าตัวเลขไม่มีที่มาและที่ไปจึงไม่ยอมกับสูตรใหม่นี้ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบปรับสูตรค่าจ้างใหม่เป็นการปรับสูตรในรอบ 6 ปีซึ่งจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการปรับสูตรค่าจ้างอัตราใหม่แต่จะไม่มีผลต่ออัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ประกาศใช้ในปี 2567

“ไตรภาคีภาคเอกชนและแรงงานเห็นตรงกันว่าค่าจ้างที่สูงตามการหาเสียงของพรรคการเมืองหากมีการปรับจะกระทบต่อการลงทุน สถานประกอบการทั้งภาคการผลิตและบริการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(SME) จะอยู่ยากเพราะสภาพเศรษฐกิจยังคงเปราะบางในปีหน้าที่แนวโน้มการทำงานไม่เต็มเวลาหรือการปิดกิจการจะสูงขึ้น”นายธนิต กล่าว-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว