ปี 67 ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมาแรง โดยปี 66 โตสูงถึง 1,925%

กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.-สสว.เปิด 5 ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2567 ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมาแรง ปี 66 โตสูงถึง 1,925%  รองลงมาเป็นธุรกิจผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดาที่เติบโตถึง 1,109% ขณะที่ธุรกิจขายอุปกรร์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง และเกสเฮาส์กลับร่วง


นายวีระพงศ์ คงมาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผบผลการศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ SME โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญคือ อัตราการเติบโตของุรกิจ เมื่อเทมียบกับปัที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2567 มีธุรกิจของ SME ทั้งกลุ่มที่เป็นดาวรุ่ง และกลุ่มธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวัง โดยกลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 พบว่า มี 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่เป็นดาวรุ่งต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน และกลุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงสำหรับปี 2567 โดย

กลุ่มธุรกิจที่เป็นดาวรุ่งต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ได้แก่ 1.ธุรกิจขายของชำ หรือ ร้านโชวห่วย เติบโตถึง 940% เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้ สามารถซื้อสินค้าได้ครั้งละน้อยๆ และยังยืดหยุ่นในการชำระเงินได้ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในชุมชน 2.ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชน สัมผัสวัฒนธรรมชนบท เติบโตถึง 187% หลังสถานการณ์โควิด-19 เทรนด์การท่องเที่ยวโลกเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเยียวยาชีวิตและจิตใจ ได้สัมผัสเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ความเรียบง่ายจากอาหารธรรมชาติ บรรยากาศที่เงียบสงบ ความผ่อนคลาย สัมผัสธรรมชาติเพื่อเติมพลัง 


3.ธุรกิจขายของในบ้านมือสอง และซ่อมเฟอร์นิเจอร์ เติบโตกว่า 236% เนื่องจากค่าซ่อมจ่ายน้อยกว่าซื้อใหม่ อีกทั้งความจำเป็นในการใช้งานตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับเทรนด์รักษ์โลก 4.ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ เช่น การตัดต่อ และการจัดผังรายการ เติบโตที่ 199% เนื่องจากหลังโควิด-19 ธุรกิจสื่อปรับกลยุทธ์ขยายไปแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมทั้งเข้าสู่อาชีพ Youtuber และการสร้างกระแสในโลกโซเชียลง่ายขึ้น เกิดช่อง Youtube ของคนไทยเป็นจำนวนมาก 5.ธุรกิจผับ บาร์ และร้านที่ขายแอลกอฮอล์เป็นหลัก เติบโต 125%  จากการที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติกลับมาใช้ชีวิตยามราตรีได้ตามปกติ สอดคล้องกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว

ส่วนกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นมา 5 อันดับ ได้แก่ 1.ธุรกิจซักผ้าหยอดเหรียญ มีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,925% ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้เวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆ หรือต้องการพักผ่อน ลดค่าใช้จ่ายในการซัก-อบผ้า โดยบริการนี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง  แต่ธุรกิจนี้เริ่มมีการแข่งขันเข้มขึ้นมากขึ้น 2.การผลิตน้ำอัดลมแก๊สและโซดา  มีอัตราเติบโต 1,109% ด้วยรสชาติและรูปแบบที่แปลกใหม่ทั้งในรูปแบบน้ำผลไม้ต่างๆ จากแต่ละท้องถิ่นมาอัดแก๊ส เป็นทางเลือกของผู้บริโภค 3.ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งการ เติบโต 667% จากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น นำเสื้อผ้าเก่ามาซ่อมแซม หรือ สั่งซื้อจากออนไลน์ที่มีราคาถูกแต่ต้องปรับแก้ทรง 

4.กิจกรรมสันทนาการ เช่น ร้านขายเครื่องดนตรี ร้านเกม มีอัตราเติบโต 349% 5.บริการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร  เติบโต 285% ซึ่งธุรกิจนี้ช่วยลดความยุ่งยากและเวลาในการดำเนินการ ซึ่งมีให้เลือกตามงบประมาณลูกค้า อีกทั้งไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้นเติบโตได้ต่อเนื่อง


ส่วนธุรกิจในกลุ่มเฝ้าระวัง มีทั้งธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง 2 ปีต่อเนื่อง 2566 และ 2567 คือ ธุรกิจหอพักนักศึกษา เนื่องจากมีการเรียนออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งมีที่พักในรูปแบบอื่นๆเป็นทางเลือก เช่น เช่าอพาร์ทเม้นต์ คอนโดฯ ขณะเดียวกันธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2567 มี 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง หดตัวมากถึง 82% 2.ธุรกิจขายงานฝีมือและของที่ระลึก หดตัวถึง 75% และ 3.ธุรกิจเกสเฮาส์ หดตัวกว่า 65% .-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน