พนมเปญ 8 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ประกาศในวันนี้ว่า จะเดินหน้าย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ของนครวัดที่เป็นมรดกโลกต่อไป แม้มีเสียงประณามจากกลุ่มสิทธิระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่กัมพูชายืนยันมาโดยตลอดว่า ชุมชนประมาณ 10,000 ครัวเรือน เต็มใจย้ายออกจากพื้นที่ของนครวัดไปยังรุน ตา เอก (Run Ta Ek) ซึ่งเป็นชุมชนใหม่ที่สร้างขึ้นบนนาข้าวเก่า ห่างออกไป 25 กิโลเมตร นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวในวันนี้ว่า การย้ายชุมชนจะเดินหน้าต่อไป เพื่ออนุรักษ์นครวัดที่เป็นจิตวิญญาณของประเทศ และขอให้มีชุมชนเข้ามาร่วมมือมากขึ้น เขาได้สั่งการเจ้าหน้าที่คอยดูแลไม่ให้มีคนเข้าไปอาศัยในนครวัด และรับปากว่าจะเพิ่มการก่อสร้างสาธารณูปโภคที่ชุมชนแห่งใหม่ รวมทั้งจะจัดรถรับส่งประชาชนเดินทางจากพื้นที่เดิมไปพื้นที่ใหม่วันละ 10 เที่ยว ผู้นำกัมพูชาให้เหตุผลที่ต้องย้ายชุมชนว่า เป็นการทำตามเงื่อนไขบางอย่างขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เพื่อให้นครวัดยังคงสถานภาพมรดกโลกต่อไป
องค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าวหากัมพูชาเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า ละเมิดกฎหมายสากลจากการบังคับย้ายชุมชนออกจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศและเรียกร้องให้ยุติโดยทันที รวมทั้งกล่าวหากระทรวงการที่ดินและองค์การอัปสราแห่งชาติที่ดูแลนครวัดว่า ใช้ยูเนสโกเป็นข้ออ้าง ขณะที่ยูเนสโกชี้แจงเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า ไม่เคยร้องขอ สนับสนุน หรือมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
นครวัดเป็นโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9 มีชาวต่างชาติไปเยือนมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี ในช่วงก่อนเกิดโควิด จึงกลายเป็นชุมชนของผู้ค้าแผงลอย คนขายอาหาร ขายของที่ระลึก และขอทาน จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจาก 20,000 คนในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 เป็น 120,000 คนภายในปี 2556 ทางการระบุว่า ชุมชนที่ตั้งขึ้นเองเหล่านี้ทำลายสภาพแวดล้อมจากการทิ้งขยะและใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง.-814.-สำนักข่าวไทย