ไม่หวั่น “สว.อุปกิต” ฟ้องกลับ ชี้หวังใช้กลไกศาลปิดปาก

รัฐสภา 9 พ.ย. – “รังสิมันต์” ไม่หวั่น “สว.อุปกิต” ฟ้องกลับ 20 ล้านบาท ชี้หวังใช้กลไกศาลปิดปาก ปูดอดีต ผบ.ตร. มีเอี่ยวป้อง สว. ยกเป็นคดีพิสูจน์กฎหมายบ้านเมืองเอื้อผู้มีอำนาจหรือไม่


นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึงคดีนายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาชญากรข้ามชาติ ว่า ได้รับการชี้แจงจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่า ขั้นตอนขณะนี้เหลือแค่การสืบทรัพย์ของนายอุปกิต ว่าส่วนใดบ้างที่มาจากการค้าขายยาเสพติด โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีรายงานให้สาธารณชนทราบ แต่ส่วนตัวมองว่า การยึดอายัดทรัพย์ช้ามาก เมื่อเทียบกับคดีอื่น ๆ ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังไม่มีรายงานขั้นตอนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังแจ้งข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติต่อ สว. คนดังกล่าว แต่ ปปง. กับ ป.ป.ส. ควรต้องทำงานร่วมกัน

“คดีนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า กฎหมายบ้านเมืองเราจะสามารถใช้กับผู้มีตำแหน่งสำคัญในบ้านเมืองได้หรือไม่ โดยเฉพาะช่วงนี้ไม่ได้อยู่ในสมัยประชุมสภาฯ ไม่มีเอกสิทธิ์ปกป้องบุคคลนั้น ไม่ว่าจะเป็น สส. หรือ สว. ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำหน้าที่ให้จงได้ โดยตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาแล้วในวันนี้ สว.อุปกิต ถือเป็นผู้ต้องหาในคดีสมคบค้ายา ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อย ต่อไปคือกระบวนการสั่งฟ้อง ทราบมาว่าช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะมีการดำเนินคดีต่อไป แต่ขั้นตอนนี้ต้องอยู่ที่ทางอัยการ ทางกรรมาธิการฯ ไม่อาจก้าวล่วงได้” นายรังสิมันต์ กล่าว


ส่วนที่นายอุปกิตฟ้องกลับนายรังสิมันต์ เรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาทเพิ่มเติมนั้น นายรังสิมันต์ มองว่า มีเจตนาหวังคำขอคุ้มครองชั่วคราวจากศาล และต้องการให้ตนไม่พูดเรื่องนี้อีก ถึงตอนนี้ศาลยังไม่ได้สั่งอะไร

“ตนเองในฐานะ สส. มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาค แต่หากมีการใช้กลไกศาลปิดปากไม่ให้ตนสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ ฝ่ายอื่น ๆ ที่มีหน้าที่ก็ต้องทบทวนกัน ท้ายสุดท่านก็อาจมีภาระทางกฎหมายเช่นเดียวกัน” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ผู้ที่ให้การช่วยเหลือ สว.อุปกิต ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา ก็มีแนวโน้มจะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง รวมถึงตำรวจ 12 นาย ซึ่งตนเองได้ทราบชื่อมาแล้ว มีผู้ที่เป็นอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เป็นหนึ่งในคนที่ทางจเรตำรวจได้ชี้มูล และอาจมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง