กรุงเทพฯ 8 พ.ย.- วันนี้สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งทั่วประเทศ ติดป้ายที่หัวจ่ายแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 หมด โดยให้เหตุผลว่าขนส่งไม่ทัน จึงมีการตั้งคำถามจากผู้ใช้ว่า น้ำมันหมดจริง ๆ หรือ ผู้ให้บริการกักตุนไว้ขายในยามที่ปรับราคาขึ้นหรือไม่ เนื่องจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 31 ต.ค.66 ปรับราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 , เบนซิน ลด 1 บาทต่อลิตร ส่วน E20 และ E85 ลด 80 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งมีผลเมื่อวาน (7 พ.ย.) ทำให้หากสั่งน้ำมันมาเพิ่มในระหว่างนี้ เมื่อปรับราคาลงก็จะขาดทุนทันที
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ยอมรับว่า มีประชาชนร้องเรียนเรื่องนี้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ตั้งแต่เมื่อวาน (7 พ.ย.) ที่น้ำมันกลุ่มเบนซินลดราคา สถานีบริการหลายแห่งมีผู้ใช้จำนวนมากแห่นำรถไปเติมน้ำมัน ทำให้น้ำมันหมดจริง หลายแห่งต้องติดป้ายแจ้งว่าแก๊สโซฮอล์ 91 หมดตั้งแต่เช้า
ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าอาจเป็นการกักตุนน้ำมัน โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 91 ที่ราคาลดลงมาก กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เข้าตรวจสอบหลายสถานีที่มีเรื่องร้องเรียน ย้ำการปรับลดราคาน้ำมันรอบนี้เป็นการชดเชยจากภาครัฐ ไม่ได้กระทบกำไรในส่วนผู้ประกอบการ ดังนั้นผู้ประกอบการจะนำมาเป็นข้ออ้างปฏิเสธการจำหน่ายไม่ได้ เตือนผู้ประกอบการที่ปฏิเสธการจำหน่ายในขณะที่น้ำมันยังมีต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าในสตอก จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตวจสอบได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2794-4555 (กรมธุรกิจพลังงาน ) หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-1406080 (กองตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน) -สำนักข่าวไทย