ทำเนียบรัฐบาล 31 ต.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยครม.เห็นชอบโครงการสินเชื่อช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล วงเงิน 2,000 ล้านบาท ขณะ รมว.แรงงาน ขอเพิ่มเงินเยียวยาอีกรายละ 50,000 บาท จากเดิม 15,000 บาท เสนอประชุมนัดหน้า
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณามาตรการเยียวยาแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แรงงานไทยที่เดินทางกลับมีสภาพคล่องที่เพียงพอในการเริ่มต้นประกอบอาชีพ หรือแบ่งเบาภาระหนี้สิน ครม.จึงมีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทยจากอิสราเอล โดยรัฐบาลจะอนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 2,000 ล้านบาทผ่านธนาคารออมสินและธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แบ่งกันดูแลธนาคารละ 1,000 ล้านบาท ให้รายละ 150,000 บาท ดอกเบี้ย 3% โดยรัฐบาล ช่วย 2% แรงงาน จ่ายเอง 1% ผ่อนชำระ 20 ปี ประมาณ 690 บาท ต่อเดือน ต่อ คนสามารถมายื่น กู้ ได้จนถึง 30 มิ.ย. 67 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้กู้ยืมสำหรับการไปทำงานที่อิสราเอลและ/หรือเพื่อลงทุนประกอบอาชีพ (ข้อมูลจาก กรมการจัดหางาน ณ เดือน ก.ย. 2566 มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล 25,887 คน)
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอที่ประชุมเป็นกรณีพิเศษว่า เงินเยียวยาให้คนที่เดินทางกลับมา 15,000 บาทนั้นไม่เพียงพอ จึงเสนอในที่ประชุมขออนุมัติงบกลางเพิ่มให้อีกคนละ 50,000 บาท นายกรัฐมนตรีรับปากและจะให้มีผลย้อนหลังกับทุกคน ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งว่าเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ให้กระทรวงแรงงานเสนอเข้ามาครม. เพื่ออนุมัติ นอกจากนี้ รัฐมนตรีแรงงาน จะขอให้พักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย แรงงานไทยที่เป็นหนี้ กับสถาบันการเงิน ในวงเงิน 150,000 บาท ซึ่งจะเข้าสู่คณะมนตรีในรอบหน้า ทั้งการขอเงินเพิ่ม 50,000 บาทและพักชำระหนี้ 150,000 บาท” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย