ก้าวไกลรับ 2 สส.คุกคาม-ล่วงละเมิดทางเพศ

พรรคก้าวไกล 31 ต.ค.-“เบญจา” เผยผลสอบ 2 สส.คุกคาม-ล่วงละเมิดทางเพศ ทำผิดวินัยร้ายแรงพรรค โทษถึงขั้นขับออก ยันไม่กังวลจำนวน สส.ลด พรุ่งนี้ประชุมลงดาบ ย้ำไม่มีวัฒนธรรมปกป้อง


น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ประธานคณะทำงานชุดพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ พรรคก้าวไกล เปิดเผยกรณีที่มีข้อร้องเรียน สส.พรรคก้าวไกล 2 คนที่อาจจะเข้าข่ายในเรื่องของการคุกคามทางเพศและล่วงละเมิดทางเพศ ว่า กรรมการวินัยของพรรคได้สืบสวนหาข้อเท็จจริง และกรรมการบริหารและกรรมการวินัยมีมติเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นเรื่องที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศและล่วงละเมิดทางเพศ ยืนยันว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง

น.ส.เบญจา กล่าวว่า โทษของเรื่องนี้ตามข้อบังคับเป็นบทลงโทษของการผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งมี 2 กรณี คือเป็นการ ลงโทษในลักษณะต่อสิทธิที่พึงมี หรือการขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งทั้งหมดจะขอให้ที่ประชุม สส. และกรรมการบริหารมีมติในวันพรุ่งนี้เวลา 17.00 น. เป็นต้นไปที่อาคารรัฐสภา ยืนยันว่าไม่กังวล แม้ผู้ที่กระทำผิดเป็นสส.เขต ซึ่งหากขับออกจากพรรค จะทำให้จำนวน สส.ของพรรคลดลง เป้าหมายของเรา อยากเห็นทุกพรรคการเมือง และทุกพื้นที่ในสังคมเป็นพื้นที่ปลอดภัยกับทุกคนอย่างแท้จริง ยืนยันว่าเราจะระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก


“กรณีนี้เป็นความผิดที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก ยืนยันว่ากรณีที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศและล่วงละเมิดทางเพศถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง หากจะต้องเสียบุคลากรของพรรคไป ก็ต้องย้อนกลับไปดูข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เราให้คุณค่าหลักและมีอุดมการณ์หลักเรื่องนี้ที่เราจะต้องยึดถือร่วมกัน ยืนยันว่ากรณีแบบนี้เราจะพูดถึงเฉพาะตัวบุคคลไม่ได้ ต้องยกระดับสังคมให้เท่ากันและยกระดับการเมืองไทย ถ้าเราต้องเสียบุคลากรที่สำคัญไป เราจะเสียดายหรือไม่ ต้องบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการวินิจฉัยของกรรมการวินัยและกรรมการบริหาร รวมถึงเพื่อนสมาชิก ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่สอบสวนสืบสวน ส่วนกรณีอดีตผู้สมัคร สส.ชัยภูมิล่วงละเมิดทางเพศและพรรคมีมติขับออกจากพรรคไปแล้ว อาจจะแตกต่างออกไปแต่กรณีของผู้แทนราษฎร มีข้อกล่าวหา เข้าข่ายคุกคามทางเพศและเรื่องละเมิดทางเพศ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ” น.ส.เบญจา กล่าว

น.ส.เบญจา กล่าวว่า พรรคมีมาตรฐานในการกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน ไม่ว่ากรณีคุกคามทางเพศ ล่วงละเมิดทางเพศ กระทำรุนแรงทางเพศก่อความเดือดร้อนทางเพศ ยืนยันไม่ได้มีวัฒนธรรมที่จะปกปิดความผิดใด ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราค่อนข้างมีความระมัดระวังกับเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก การที่เราจะลงโทษใครคนใดคนหนึ่งโดยที่ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงก็เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมาก และเหมือนเป็นอนาคตของเขา รวมถึงเป็นเรื่องของความรับผิดชอบและหน้าที่ของเขาด้วยในการเป็นผู้แทนราษฎร เราจึงระมัดระวังการพิจารณา แต่ทุกอย่างเป็นไปตามบทลงโทษที่ถูกกำหนดไว้ในข้อบังคับอยู่แล้ว เมื่อที่ประชุมของกรรมการบริหารและที่ประชุมของผู้แทนราษฎร และที่ประชุมสส. มีความเห็นร่วมกันและมีมติเดียวกันว่าเห็นสมควรให้ลงโทษวินัยร้ายแรงโดยการขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเราก็น้อมรับ

“ในส่วนของผู้ร้อง พรรคต้องระมัดระวัง ที่จะนำไปสู่การคุกคามทางเพศ หรือการกระทำใดๆ หรือมีการตามล่าตัวผู้ร้องเพิ่มหรือทำให้เขารู้สึกมีบาดแผลและเจ็บป่วยกับเรื่องนี้ซ้ำ ในทุกการพิจารณา ที่เราใช้เวลาพอสมควร เพราะเรามีความจำเป็นต้องระมัดระวังและรอบคอบอย่างมากที่จะตัดสินลงโทษทางวินัย แล้วต้องมีท่าทีที่จะปกป้องผู้ร้องด้วย ที่ผ่านมาเราก็มีมาตรการปกป้องข้อมูลต่าง ๆ คุ้มครองดูแล และทุกครั้งที่ผู้ร้องมาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริง เราค่อนข้างห่วงใยมาก ๆ และเป็นไปตามที่ผู้ร้องร้องขอทั้งสิ้น เช่นจะขอใช้สถานที่ใดที่ปลอดภัย และไม่เป็นที่กังวลใจนักหรือขอผู้ที่ได้รับความไว้วางใจมาร่วมกับกรรมการวินัยด้วย ซึ่งเรามีมาตรการอย่างมากในการปกป้องผู้ร้องด้วย” น.ส.เบญจา กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”