อย. เตือนอย่าหลงเชื่อสบู่ผสมสมุนไพรนางแซง โฆษณาเกินจริง

กทม. 20 ต.ค.- อย. เตือนอย่าหลงเชื่อสบู่ผสมสมุนไพรนางแซง โฆษณาเกินจริง แสดงฉลากไม่ถูกต้อง เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว แนะเมื่อซื้อเครื่องสำอาง เพื่อความปลอดภัย ขอแนะนำให้ทดสอบการแพ้ก่อนใช้


นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ตามที่มีคลิปการโฆษณาผลิตภัณฑ์สบู่ผสมสมุนไพรนางแซง เฮอเบิล โซป เผยแพร่ทางสื่อโซเชียล นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการตรวจสอบ โดยได้ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี พบว่าคลิปดังกล่าว เป็นการจัดอีเว้นต์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี และมีภาพสบู่ จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ชื่อการค้า ตะวันเดือน ชื่อเครื่องสำอาง นางแซง เฮอเบิล โซป ใบรับจดแจ้งเลขที่ 10-1-6100032680 ผลิตโดย บริษัท บางกอกโซป จำกัด เลขที่ 129/36 ม.3 ต.วังจุฬา อ.วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้รับจ้างผลิต จัดจำหน่ายโดย บริษัท ตะวันเดือนอินเตอร์เกรท จำกัด เลขที่ 69/16 ม.10 ซ.บางเลน 21 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อย. จึงประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบสถานที่ผลิต โดยพบว่าสถานที่ผลิตสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง สูตรตำรับตรงตามที่จดแจ้ง แต่ฉลากไม่ถูกต้อง จึงเปรียบเทียบปรับ จำนวน 60,000 บาท และจะเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์ สำหรับสถานที่จัดจำหน่าย ได้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบพบฉลากมีการแสดงข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์ รวมทั้งปิดกั้นโฆษณาทางสื่อออนไลน์ต่อไป

ขอเตือนผู้บริโภคระวังในการเลือกซื้อ เลือกใช้ อย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าใช้แล้วจะรักษาสิว ฝ้า ทำลายเชื้อแบคทีเรีย กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างที่โอ้อวดเกินจริง เนื่องจากสบู่จัดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มีวัตถุประสงค์การใช้เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า ผิวกาย โดยใช้แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดเพื่อชะล้างเหงื่อไคล ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกในชีวิตประจำวันเท่านั้น โฆษณาที่โอ้อวดเกินจริงลักษณะนี้ อาจมีอันตรายจากการลักลอบใส่สารห้ามใช้หรือสารที่เป็นอันตราย ทั้งนี้ เมื่อซื้อเครื่องสำอางมาแล้ว เพื่อความปลอดภัย ขอแนะนำให้ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยการทาเครื่องสำอางในปริมาณเล็กน้อยที่บริเวณท้องแขน หรือหลังใบหู แล้วทิ้งไว้ 24 – 48 ชั่วโมง หากใช้แล้ว มีความผิดปกติต้องหยุดใช้ทันที แล้วนำผลิตภัณฑ์ไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาว่า อยากสวยต้องอดทนต่อการระคายเคืองต่าง ๆ หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายสามารถร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วน อย. โทร.1556 หรือ E-mail: 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ. นนทบุรี 11004 หรือ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่