2 พ.ค. – “อัจฉริยะ” ร้อง ตร.ไซเบอร์ เอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ กับดารา-โรงพยาบาลดัง โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณยาลดน้ำหนักเกินจริง
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญาในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในการโฆษณาอาหารเสริมสามารถลดน้ำหนักได้ กับกลุ่มดาราและบริษัทอาหารเสริมจำนวนหลายราย โดยมี พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) เป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ
นายอัจฉริยะ ระบุว่าวันนี้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ 2 ดาราดัง และบริษัทที่จัดจำหน่าย รวมถึงบริษัทที่รับเงิน ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สืบเนื่องจากที่ตนได้ไปร้องเรื่องของการโฆษณาโอ้อวดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ในกรณีที่มีการโฆษณาอาหารเสริม อวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 15 กิโลกรัม ในระยะเวลา 2 เดือน โดยมีข้อความอันเป็นเท็จ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของตนต้องการให้พวกเขาแก้ไข ปรับปรุงแต่ทางดาราดังกลับให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนได้รับจ้างมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัทดาราดัง เหมือนเป็นการอิจฉา โดยข้อความดังกล่าวทั้งสิ้นเป็นความผิดทางกฎหมาย และควรทำตามกฎหมายของ อย. โดยดาราดังยังไม่มีการแก้ไข ตนจึงมาดำเนินคดีอาญาในข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และได้มีตัวอย่างประชาชนผู้เสียหายจำนวนมากที่มีการซื้อสินค้าไปแล้วปรากฏว่าไม่ได้ลดจริงอย่างที่โฆษณา
นอกจากนี้จะดำเนินคดีกับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเช่นเดียวกัน และยังมีภาพตัวอย่างประกอบว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกัน หลังจากที่ทานยาดังกล่าวและสามารถลดหน้าท้องได้ ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นการโฆษณาแบบโอ้อวด และเป็นโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องโฆษณาทั้ง 2 คดี
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าทั้งกลุ่มดาราหรือนางงาม มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำนวนมาก ทำให้ประชาชนหลงเชื่อจากการเป็นดารา ขณะเดียวกันตนกำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับดาราอีกมากกว่า 10 ราย และยังมีพยานที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์มาให้ข้อมูล แต่เบื้องต้นยังคงต้องดำเนินคดีเพียง 2 รายก่อน โดยให้ บช.สอท.ได้ทำงานและรอผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ โดยถ้าหากผลตรวจออกมาแล้วพบว่าไม่สามารถลดน้ำหนักได้จริง ตนจะดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆ ต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย