“วุ้นเส้น-หนิง” แถลงหลังจับผู้ตัดต่อภาพไปใช้โฆษณาขายเครื่องสำอาง

สอท. 4 เม.ย. -“วุ้นเส้น-หนิง” แถลงร่วมกับ ตร.ไซเบอร์ หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพตัดต่อภาพไปใช้โฆษณาขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายหลายล้าน


พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง.ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.กฤติน ตปสิโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 พร้อมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ อย. ตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมทั้งสิ้น 4,491 ชิ้น มูลค่ากว่าล้านบาท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค 67 น.ส.วิริฒิพา หรือ วุ้นเส้น และ น.ส.ปณิตา หรือ หนิง 2 ดารานักแสดง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บช.สอท.1 กรณีมีเพจปลอมแอบอ้างนำวิดีโอไปตัดต่อ บิดเบือนข้อเท็จจริงในการโฆษณาสินค้าและผลิตภัณฑ์ และ อย.ได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่าใช้เซรั่มเถื่อนดังกล่าว ซึ่งตรวจสอบไม่พบฉลากภาษาไทย และไม่พบการจดแจ้งในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ต่อมาจากการสืบสวนร้านค้าออนไลน์ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายทางสื่อออนไลน์ จนทราบว่าร้านค้าออนไลน์ มีพฤติการณ์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าวทางสื่อออนไลน์ จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลแขวงสมุทรปราการ เพื่อทำการตรวจค้น ณ สถานที่ซุกซ่อนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายของ ร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายทางสื่อออนไลน์ ในวันที่ 2 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นและกำลังเจ้าหน้าที่​ อย. ได้ร่วมกันทำการตรวจค้น ตามหมายค้นศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 14/2567 ลงวันที่ 1 เม.ย. 67 ณ คลังสหไทย เลขที่ 88/73 ม.32 ซ.ที่ดินไทย ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี ​จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมาย และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายชนิดอื่นอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำการยึดของกลางทั้งหมด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของร้านค้าออนไลน์ และเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป โดยหากสืบพบเจ้าของร้านค้าออนไลน์ที่แท้จริง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ.๒๕๕๘ ดังนี้ ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง” ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย” ระวางจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ภก.วีระชัย กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอขอบคุณตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) (สอท.1) ที่ร่วมกันตรวจค้นโกดัง จากการได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นดารากรณีถูกนำคลิปวีดีโอแนะนำเครื่องสำอางชื่อการค้า SEWA ไปตัดต่อภาพ ทั้งนี้ได้ตรวจสอบแล้ว พบการฝ่าฝืนกฎหมาย ได้แก่ เครื่องสำอาง ที่ฉลากไม่แสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งหรือแสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งและไม่แสดงฉลากเป็นภาษาไทย จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ล้วนต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อนผลิต นำเข้า และจำหน่าย ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว สำหรับยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่สามารถซื้อทางออนไลน์ได้ ต้องซื้อจากร้านยาหรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายจากแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้น เว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้าน

พ.ต.อ.ปรีดา ได้ระบุว่าเบื้องต้นยังไม่มีเจ้าของร้านค้าออนไลน์รายใดแสดงตนว่าเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเร่งทำการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวของทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหา ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี และจะเร่งขยายผลทำการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าว ในรายอื่นๆ ต่อไป

ด้าน น.ส.ปณิตา เปิดเผยว่า ในแต่ละขั้นตอนของการทำแบรนด์ มีความซับซ้อนและยากมากที่นำออกมาจำหน่าย ทางแบรนด์ขอ อย. ถึง 3 ครั้ง หากตนไม่ตามเรื่อง เรื่องนี้ก็จะหายเงียบไป ดังนั้นจึงต้องฝากทางผู้ใหญ่ให้ตรวจสอบ เพราะยังมียี่ห้อแบรนด์อื่นที่มีการนำเข้าผิดกฎหมายอีกเช่นกัน อยากให้ผู้กระทำผิดหยุดการกระทำดังกล่าว และหากแบรนด์ไหนประสบปัญหาเช่นเดียวกับแบรนด์ของตน อยากให้ออกมาร่วมมือกันเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป


ด้าน น.ส.วิริฒิพา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้สินค้าปลอมที่อยู่ในตลาด ยังมีการใช้คลิปโฆษณาของแบรนด์ตน เพื่อโปรโมทสินค้าปลอม การทำธุรกิจกว่าจะได้การนำเข้าส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อแบรนด์ตนและแบรนด์อื่นๆ ในความโชคดีที่พวกเราเป็นบุคคลหน้าสื่อ เรื่องจึงไม่เงียบ ต่อไปนี้ก็จะตามเรื่องต่อไปจนถึงต้นตอ เพราะสร้างความเสียหายให้ตน รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย