โรงงานยาสูงปรับตัวรับภาระกิจโกอินเตอร์

 โรงงานยาสูบ 10 ก.ค.- โรงงานยาสูบจะแปลงสภาพเป็นนิติบุคคลเพิ่มความคล่องตัวทำธุรกิจ


นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. … ซึ่งได้กำหนดให้โรงงานยาสูบมีสถานะเป็นนิติบุคคลโดยเปลี่ยนชื่อเป็น การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา และเตรียมเสนอสภา สนช.พิจารณาในขั้นต่อไป คาดว่าร่างกฎหมายจะผ่านการพิจารณาของสภา สนช.ภายในสิ้นปีนี้ แต่ระหว่างการพิจารณากฎหมายขององค์กรต่างๆ โรงงานยาสูบ จึงเตรียมองค์กรรองรับภาระกิจใหม่ ซึ่งสามารถดำเนินการได้มากขึ้น 

หลังจากมีสภาพเป็นนิติบุคคล เพราะจะมีความคล่องตัวในการทำธุรกิจต่าง ๆ ได้มากขึ้น โรงงานยาสูบจึงได้ปรับองค์กรรองรับการผลิตยาสูบในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM)ให้กับลูกค้าหลายประเทศ จึงได้เจรจาร่วมกับเอกชนจีน เตรียมตั้งบริษัทลูก โดย ยสท.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  ด้วยทุนเกิน 5,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนจะใช้แนวทางแบบบ PPP ลักษณะใด เพื่อผลิตบุหรี่สำหรับการส่งออก ไม่จำหน่ายในประเทศไทย แต่ต้องใช้ใบยาสูบของไทยร้อยละ 70 โดยโรงงานยาสูบดูแลรูปแบบการผลิตเมื่อตั้งโรงงานแห่งใหม่แล้วเสร็จ 


นอกจากนี้ยังต้องพึ่งพาเกษตรกรชาวสวนใบยาสูบก็ต้องให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากความต้องการผลิตบุหรี่รองรับตลาดโลก เพื่อส่งออกใบยาเพิ่มเติม เบื้องต้นวางเป้าหมายผลิตส่งออกประมาณ รองรับความต้องการทั้ง จีน สิงคโปร์ เมียนมาร์ อินโดนิเซีย สปป.ลาว  ต้องการบุหรี่แบรนด์ไทย และการรับจ้างผลิต OEM มากกว่าพันล้านมวนต่อปี 

โรงงานยาสูบยังอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต้นกัญชง (HEMP) ชนิดพันธุ์ที่ใช้สำหรับการผลิตกระดาษมวนบุหรี่  รวมทั้งการนำไปใช้ผลิตก้นกรอง  และน้ำยาในเมล็ดของกัญชง สามารถใช้เป็นสารปรุงแต่งเพิ่มรสชาดบุหรี่ ต้นกัญชงยังใช้สำหรับการผลิตเสื้อผ้า สิ่งทอ อุตหสากรรมยายนต์ เพราะมีความคงทนอย่างมาก ด้วยคุณประโยชน์หลาย ๆ ด้าน ยังสามารถสกัดเป็นเครื่องสำอาง เพราะมีโอเมก้า 3,6,9 จำนวนมาก การนำเส้นใยมาผลิตเสื้อผ้ายังได้ราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด คาดว่าจะเริ่มส่งเสริมการปลูกได้ในต้นปี 2562  ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกสายพันธุ์ของกันชง เพื่อมาสนับสนุนเกษตรกรปลูกในพื้นที่ต่างๆ  เพื่อใช้รองรับภาระกิจของโรงงานยาสูบ เป็นพันธุ์ทั้งจากออสเตรเลีย จีน แคนนาดา สหรัฐ  รวมทั้งการศึกษาวิจัยการผลิตก้นกรองจากชานอ้อย ซังข้าวโพด และการใช้นวัตกรรมใหม่ผลิตเส้นยาพอง รองรับความต้องการของตลาด หากมีสภาพเป็นนิติบุคคลมีภาระกิจเพิ่มหลายด้านคาดว่ามีรายได้เพิ่มจากเดิมร้อยละ 30 เพื่อนำรายได้เข้าสู่คลังต่อไป-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง