มาเลเซีย 11 ต.ค.-ไทย-มาเลเซีย เดินหน้าร่วมมือด้านการค้า พร้อมร่วมเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นพื้นที่แห่งการเติบโตใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ต่อยอดความร่วมมือบนพื้นฐานของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.) ณ ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย ณ เมืองปุตราจายา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (H.E. Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสย้ำความมุ่งมั่นและต้องการที่จะทำงานเพื่อเดินหน้าศักยภาพและความร่วมมือระหว่างกัน บนพื้นฐานของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยในโอกาสแรกที่สะดวก โดยนายกรัฐมนตรียังได้เสนอความร่วมมือทางด้านอาหาร สินค้าเกษตร ซึ่งไทยมีความมั่นคงทางอาหาร จึงหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะตั้งคณะทำงานร่วมกัน (Task force group) ในด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น ด้านการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว พร้อมกันนี้เห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะตั้งเป้าหมายการค้า (Bilateral trade) ระหว่างกันใหม่ โดยต่างฝ่ายต่างเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของกันและกันในอาเซียน ซึ่งการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการเชื่อมโยงข้ามพรมแดนจะเป็นกุญแจสำคัญ
นายกรัฐมนตรี หวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว โดยต่อยอดจากความร่วมมือที่มีอยู่ รวมถึงสำรวจความร่วมมือในการเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าและระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (hi-tech sectors) รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (proton) รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)
นายกรัฐมนตรี มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงภาคใต้ของประเทศไทย และตอนเหนือของมาเลเซียให้เป็นพื้นที่การเติบโตใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศ รวมทั้งเร่งรัดความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงที่สำคัญต่าง ๆ ที่จะเชื่อมต่อสองประเทศเข้าด้วยกัน และจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า และการเดินทางของประชาชน ซึ่งหากประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามชายแดนได้ง่ายขึ้น และทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณชายแดน ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว และส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจท้องถิ่นให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้งเป็นพื้นที่การค้า
“ไทยและมาเลเซียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคภายใต้อาเซียน รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือกับมาเลเซียเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน และส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้นเวลา 16.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.) นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงข่าวร่วมกัน ก่อนจะร่วมรับประทานอาหารเย็น ที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย