21 ก.ย. – 2 คนร้ายขับกระบะแคป ใช้มีดกระหน่ำฟันเจ้าของร้านขายของชำ ริมถนนเพชรเกษม ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม บาดเจ็บสาหัส 2 คน ก่อนชิงทอง 16 บาทหนี ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว ขอศาลอนุมัติหมายจับ เร่งล่ามาดำเนินคดี
ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับรถกระบะแคป สีน้ำเงินเข้ม เข้ามาจอดริมถนนหน้าร้านขายของชำ ถนนเพชรเกษม ขาเข้า กทม. ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม และใช้มีดกระหน่ำฟันเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงสร้อยคอทองคำหนัก 6 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 10 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดวันที่ 20 กันยายน ช่วงเที่ยงวัน ทำให้นายเอนก อายุ 67 ปี บาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู มีบาดแผลถูกฟันที่ศีรษะ ใบหน้า แขนซ้าย แขนขวา ข้อมือซ้าย ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว อีกคนคือ น.ส.ธัญญธร อายุ 42 ปี มีบาดแผลถูกฟันที่ศีรษะและต้นคอ
วันนี้ (21 ก.ย.) พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์แก้ว ชุดสืบสวนจังหวัด เพื่อเร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจรู้แล้วคนร้ายเป็นใคร หลบหนีไปทิศทางไหน โดยได้ขอศาลอนุมัติหมายจับและประสานตำรวจในเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
จากการตรวจสอบเบื้องต้น คนร้ายเป็นคนไทย อายุประมาณ 40 -45 ปี เคยทำงานอยู่ในพื้นที่ ก่อนจะมาก่อเหตุ คนร้ายได้ใส่ป้ายทะเบียนรถปลอม เปลี่ยนล้อแม็ก เข้ามาก่อเหตุ หลังก่อเหตุก็อาจเปลี่ยนป้ายทะเบียนเดิมกลับไปและเปลี่ยนแม็กออก เพื่อไม่ให้ตำรวจติดตามได้ จากการตรวจสอบท้ายรถกระบะ มีลังน้ำอัดลมที่เป็นขวดเปล่า อาจเป็นไปได้ว่ามีอาชีพค้าขาย อาจจะเป็นร้านขายของชำ ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 สืบสวนจังหวัด กระจายกำลังออกติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พบคนงานขายของหน้าร้าน เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่หน้าร้าน ลุงเอนก เพิ่งจากหายป่วยจากไข้หวัดใหญ่ ยังไม่แข็งแรงดี อีกทั้งอายุมากแล้ว คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ วอนตำรวจรีบจับตัวมาให้ได้
รวบ 2 คนร้ายชิงทอง 9 บาท ป้าร้านขายของชำ
อีกเหตุการณ์หนึ่ง ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี สอบปากคำนายณัฐพล อุปนันท์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ หลังตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุม นายกุสา โคตรแก้ว ได้ตามหมายจับ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียหายและญาติมาชี้ตัวยืนยันตัวคนร้ายและยานพาหนะที่ใช่ก่อเหตุ
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา คนร้ายทั้ง 2 คนก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดในกล่องพลาสติกไป 16,000 บาท พร้อมสร้อยทองคำ 6 เส้น รวมน้ำหนัก 9 บาท มูลค่าเกือบ 300,000 แสนบาท พร้อมด้วยบัตรเอทีเอ็ม 4 ใบ และบัตรประชาชนที่เก็บไว้ในกระเป๋าสะพายวางไว้บนเก้าอี้ภายในร้านของชำของป้าประมวล ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังจากทำทีมาเป็นลูกค้าและถามหาหมวกกันน็อก ที่ลืมเอาไว้ที่ร้าน
คนร้ายรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จริง นำทองไปขาย 1 บาท ที่ จ.ขอนแก่น นำเงินสดไปแบ่งกันซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ หลังจากนั้นย้อนกลับมาเปิดห้องพักในเขตเทศบาลนครอุดรธานี 2 คืน ก่อนพากันขึ้นรถทัวร์ไปหาแม่และญาติที่ จ.ชลบุรี นำทองรูปพรรณที่เหลืออีก 8 บาท ไปขายแบ่งกัน ซื้อยาบ้าเสพและกินเที่ยวที่ จ.ชลบุรี จนเงินเกือบหมด นายกุสาได้ขึ้นรถทัวร์กลับบ้าน ส่วนนายณัฐพลนำเงินที่เหลือซื้อรถจักรยานยนต์ใส่รถกระบะของญาตินำกลับมาใช้ที่เมืองอุดรธานี ได้ 3 วัน ก่อนถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางในห้องพัก
ด้านผู้เสียหายบอกว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทรัพย์สินคืนมาหมดก็ตาม. – สำนักข่าวไทย
