ปปง.ร่วมตรวจสอบเครือข่าย “กำนันนก”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ปปง. ร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายกำนันนก ชี้ข้อหาฮั้วประมูล ยังไม่เข้าข่ายความผิดตามมูลฐานกฎหมายฟอกเงิน แต่จะเป็นความผิดต่อเมื่อกำนันนก หรือกลุ่มเครือข่าย ไปเกี่ยวข้องกับความผิดใดความผิดหนึ่งใน 28 มูลฐานความผิดกฎหมายฟอกเงิน


นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. บอกว่าในส่วนของ ปปง. เข้ามาตรวจสอบเรื่องกำนันนก 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การสนับสนุนข้อมูลเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามรายงานธุรกรรมการเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ และส่วนที่ 2 คือ หากตรวจสอบพบความผิดอาญาที่เข้าข่ายการกระทำความผิดมูลฐานกฎหมายฟอกเงิน ปปง. จะเข้าไปตรวจสอบว่ามีส่วนใดที่เข้าข่ายเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการฟอกเงิน และจะนำเข้าสู่กระบวนการอายัดทรัพย์สินต่อไป

คดีกำนันนก ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยมอบหมายให้นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ร่วมเป็นคณะทำงาน และจะมีการประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ป.ป.ท. และดีเอสไอ ในวันที่ 19 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อหาฮั้วประมูล ยังไม่เข้าข่ายความผิดตามมูลฐานกฎหมายฟอกเงิน จะเป็นก็ต่อเมื่อกำนันนก หรือกลุ่มเครือข่ายไปเกี่ยวข้องกับความผิดใดความผิดหนึ่งใน 28 มูลฐานความผิดกฎหมายฟอกเงิน


สำหรับ 28 มูลฐานความผิด เช่น ฉ้อโกงประชาชน กรรโชก รีดเอาทรัพย์ หลบหนีศุลกากร การพนัน หน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ อั้งยี่ ความผิดเกี่ยวกับอาวุธ

เปิดตัวเลขซองประมูลบริษัทคู่เทียบ บริษัท “กำนันนก”
ก่อนหน้านี้ดีเอสไอออกมาเปิดข้อมูลการประมูลของบริษัทรับเหมาของกำนันนก ที่อาจเข้าข่ายการฮั้วประมูล รวมทั้งตรวจสอบบริษัทคู่เทียบที่เสนอราคาแข่งกับบริษัทกำนันนก โดยข้อมูลของเว็บไซต์ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน พบว่าหนึ่งในบริษัทคู่เทียบที่น่าสงสัยคือ บริษัท สิงห์ชัย เค.พี.เอส จำกัด ตั้งอยู่ที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มีกรรมการคือ นายแบงค์ และเป็นเป้าหมาย 1 ใน 15 จุด ที่เจ้าหน้าที่บุกไปตรวจค้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท สิงห์ชัยฯ และบริษัทรับเหมาของกำนันนก (ทั้งบริษัท ป.รวีกนก และ ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด) มีการยื่นซองประมูลแข่งขันกันมาตลอด โดยมักจะเสนอราคาห่างกันไม่มาก และส่วนใหญ่บริษัทของกำนันนกจะเฉือนชนะไปได้แบบเฉียดฉิว


อย่างโครงการจ้างก่อสร้างรางระบายน้ำตัวยู หมู่ที่ 10 ตำบลสามง่าม (ปี 2565) วงเงินสัญญา 900,000 บาท บริษัท สิงห์ชัยฯ ยื่นต่ำกว่าราคากลาง 1,500 บาท ขณะที่ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ฯ ของกำนันนก ยื่นซองต่ำกว่าราคากลาง 4,000 บาท ทำให้บริษัทของกำนันนกชนะไป

อีกโครงการที่มีการชนะการประมูลห่างกันเพียง 500 บาท คือ โครงการจ้างซ่อมสร้างถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต ทางเข้าหมู่บ้านไผ่เสือ หมู่ที่ 1 ตำบลหินมูล (มกราคม 2566) จากข้อมูลพบว่าตอนเสนอราคามีการยื่นประมูลแข่งกันเพียง 2 บริษัท คือ บริษัทสิงห์ชัยฯ และบริษัท ป.รวีกนก และที่สุดบริษัท ป.รวีกนก ก็ชนะไปได้ โดยยื่นต่ำกว่าราคากลาง 1,000 บาท ส่วนบริษัท สิงห์ชัยฯ ยื่นต่ำกว่าราคากลางเพียง 500 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง