ภท.จัดใหญ่ก้าวสู่ปีที่ 17 เปลี่ยนโลโก้เป็น “พรรคสีน้ำเงิน” ล้วน

พรรคภูมิใจไทย 6 เม.ย.- “พรรคภูมิใจไทย” จัดใหญ่ ก้าวสู่ปีที่ 17 เปลี่ยนโลโก้เป็น “พรรคสีน้ำเงิน” ล้วนๆ ไม่มีสีแดงปน พร้อมเดินหน้าการเมืองสันติ เทิดทูนสถาบัน สุขุมไร้ริษยา ไม่นำไปสู่สงครามสีเสื้อ “อนุทิน” ลั่น เต็มใจถูกขนานนาม “พรรคน้ำเงิน” มองเป็นการให้เกียรติ และไม่มีวันเป็นพรรคสีอื่น


พรรคภูมิใจไทย ทำบุญครบรอบวันก่อตั้งพรรค ก้าวสู่ปีที่ 17 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรค เข้าร่วมพิธีทางศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความครึกครื้น มีพรรคการเมืองร่วมแสดงความยินดี อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

จากนั้น มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 มีวาระสำคัญคือ การแก้ไขข้อบังคับพรรคภูมิใจไทย และเปลี่ยนโลโก้พรรค เป็นสีน้ำเงิน ล้วนทั้งหมด ซึ่งหมายถึงการดำเนินงานทางการเมืองที่ยึดมั่นในวิถีของความเป็นไทย สื่อถึงความรักชาติ จรรโลงศาสนา และเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยทั้งชาติ ภายในการปกครองในระะบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


ต่อมาในเวลา 11.15 น. นายอนุทิน พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ได้ขึ้นอัฒจันทร์บริเวณด้านหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อเปิดตัวสีตราสัญลักษณ์ใหม่ของพรรคภูมิใจไทยเป็นสำน้ำเงินล้วน

โดยนายอนุทิน กล่าวถึงการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทยว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีอายุครบ 16 ปี ในวันนี้ ว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์การทำงานทางการเมือง และการบริหารมาแล้วทุกรูปแบบ ในทุกสถานการณ์การเมือง เป็นพรรคการเมืองฝ่ายบริหาร เป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นพรรคการเมืองที่ถูกแช่แข็งในห้วงเวลาการเมืองไม่ปกติไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด พรรคภูมิใจไทย สามารถบริหารจัดการพรรค ดูแลสมาชิกพรรคและดำเนินงานทางการเมือง มาได้โดยไม่มีสะดุด ไม่มีหยุดพัก

16 ปีที่ผ่านมาเราทำงานกันทุกวัน ไม่มีวันหยุด สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เข้าไปทุกพื้นที่ที่ประชาชนมีปัญหา ช่วยกันแก้ไขปัญหา ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน สม่ำเสมอ ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน จะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่ง แต่เราทุกคนมี หน้าที่ เพราะเราอาสามาเป็นผู้แทนราษฎร อาสามาทำงานการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชนทุกลมหายใจของเรา คือ สำนึกในบุญคุณของประชาชน ตระหนักในความเดือดร้อนของประชาชน และ ทุกวันเวลาของเรา คือ ความตั้งใจจะทำงานเพื่อตอบแทนพี่น้องประชาชน


“เพราะเราคิดกันแบบนี้ ทำงานกันแบบนี้ เพราะคนภูมิใจไทย เป็นแบบนี้จึงเป็นเหตุให้พรรคภูมิใจไทย เติบโตขึ้นทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พี่น้องประชาชน ไว้ใจ เชื่อใจเรามากขึ้น จำนวนส.ส.ที่เพิ่มขึ้น คือ คำตอบว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทย เป็นที่ชื่นชอบ ของประชาชนมากขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะมีขึ้นเมื่อไร พรรคภูมิใจไทย จะเติบโตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน จะได้รับโอกาส และความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น อีกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา” นายอนุทิน ระบุ

นายอนุทิน ยังกล่าวว่า 16 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลง ทั้งการเปลี่ยนแปลงในระบบ และการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ ด้วยความรุนแรง ทำให้สถานะของพรรคภูมิใจไทย เปลี่ยนแปลงไปตามที่กล่าวไว้ตอนต้น แต่สิ่งหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังคงยึดมั่นเป็นอุดมการณ์สูงสุด เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคนภูมิใจไทย ไว้ได้ ก็คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งมีความมั่นคง ไม่มีเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ และ ความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ หล่อหลอมพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งถูกเรียกว่า เป็นพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเราถือว่าเป็นการให้เกียรติต่อพรรคภูมิใจไทย และ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชน สื่อมวลชน ยอมรับ และสัมผัสได้ ถึงอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย และจิตวิญญาณของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนองค์กรเครือข่ายที่ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย อาทิ องค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างๆ ทั่วประเทศ

สีน้ำเงิน หมายถึง ความสงบ ความสันติ และ ความสามัคคี

สีน้ำเงิน หมายถึง ความเข้มแข็ง ความมั่นคง ความหนักแน่น และความเป็นปึกแผ่น

สีน้ำเงิน หมายถึง ความมีสติ ความมีเหตุผล ความสุขุม นุ่มลึก ไร้ ริษยา ความเยือกเย็น และ ความอบอุ่น

สีน้ำเงิน คือ สีบนธงชาติไทย และเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์

ความหมายของสีน้ำเงิน ถูกต้องตรงกับบุคลิกลักษณะ และอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ทุกประการ

“ดังนั้น วันนี้ พรรคภูมิใจไทย โดยที่ประชุมใหญ่ของพรรค จึงมีมติให้เปลี่ยนสีตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทย เป็น สีน้ำเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรียก หรือ ฉายาที่พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน เรียกเรา พรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ ของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน”

จากนี้ไป เมื่อกล่าวถึงพรรคสีน้ำเงิน ให้เป็นที่รับรู้ว่า คือ พรรคภูมิใจไทย แต่เราจะไม่นำความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ไปแบ่งแยกพี่น้องประชาชน หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยก หรือ สร้างสงครามสีเสื้อ สร้างความบอบช้ำ สูญเสียให้แก่พี่น้องประชาชน ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ของพรรคภูมิใจไทย จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นหลักให้กับการเมืองไทย ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง เข้มแข็ง ด้วยความสงบ สันติ สามัคคี สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศไทย และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตลอดไป

ในโอกาสที่วันนี้ เป็นวันครบรอบการก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ครบ 16 ปี จึงขอเชิญชวนให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน ร่วมกันเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรคภูมิใจไทย และร่วมกันประกาศตัวเป็นสมาชิกพรรคสีน้ำเงิน สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์การทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ตามอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย คือ การธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และ นำพาพี่น้องประชาชน ก้าวเดินเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และภัยธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ที่จะรุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และ คนไทย มากขึ้น ด้วยความปลอดภัย และมีความพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ และทุกการเปลี่ยนแปลงของโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากนั้น นายอนุทิน รัฐมนตรีของพรรค คณะกรรมการบริหาร และ สส.พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมกันเปิดผ้าคลุมที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นโลโก้และสัญลักษณ์ใหม่ เป็นสีน้ำเงินล้วน ไม่มีสีอื่นๆปนแต่อย่างใด.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย