กทม. 7 ก.ย.-“พิมพ์ภัทรา” รมว.อุตสาหกรรม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์ในกระทรวง พร้อมผลักดัน “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ขับเคลื่อนอีอีซี ดึงดูดการลงทุนต่างชาติ เตรียมเสนอบอร์ด EV หนุนรถยนต์ไฟฟ้า รองรับความต้องการพุ่ง
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์ และมอบนโยบายกับผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีแกนรำพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมแสดงความยินดี เช่น นายวิทยา แก้วพาราดัย พรรครวมไทยสร้างชาติ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. เตรียมผลักดัน “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” การสานต่อพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล การกระตุ้นการลงทุนทั้งในและต่างเทศ การยกระดับขีดความสามารถเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ การบริการจัดหาแหล่งน้ำหลังคาดการณ์ปัญหาภัยแล้งอาจรุนแรงในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการน้ำทั้งภาคเกษตรจากชาวสวนผลไม้ และความต้องการน้ำของภาคอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้การใช้น้ำกระทบจากเกษตรกร
น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ยังต้องการเดินหน้าผลักดันเขตอีอีซี ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ตามความต้องการมใช้รถยนต์ไฟฟ้าแนวโน้มสูงขึ้น ขณะนี้ต้องรอประธานบอร์ด EV มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาเพื่อหารือร่วมกันทุกส่วนทั้งกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ รอความชัดเจนเกี่ยวกับ นโยบายส่งเสริมการผลิตยายนต์ไฟฟ้า เพื่อต่ออายุมาตรการ EV 3.0 จากเดิมสนับสนุนลดราคา 70,000-150,000 บาทต่อคัน จากนั้น เตรียมพิจารณาแพ็กเจ EV 3.5 รอบใหม่ เพื่อให้ส่วนลดนำเข้า EV คันละ 50,000 บาท ค่ายรถยนต์ต้องตั้งโรงงานในประเทศ ผลิตรถไฟฟ้าเท่ากับการนำเข้า 2-3 เท่า การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ยกเว้นภาษึมูลค่าเพิ่ม 5 ปี ส่งเหล่านี้ต้องพิจารณาให้ชัดเจน โดยเฉพาะการนิคมอุตสากรรม ต้องเร่งจัดเตรียมความพร้อมการขยายโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ การส่งเสริมให้รถบริการสาธารณะใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมมากขึ้น
รมว.อุตสาหกรรม คนใหม่ กล่าวว่า กระทรวงอุตสหากรรม ยังต้องการผลักดันการลงทุนในเขตอีอีซี เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร การงทุนของต่างชาติมีความสำคัญ โดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต การส่งเสริมทุนดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงเอสเอ็มอี การส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน CIV เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน ที่ยังต้องการส่งเสริมต่อเนื่อง การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยังเป็นประเด็นหลักต้องเร่งแก้ปัญหา รวมถึงป้องกันปัญหาการทิ้งน้ำเสียของโรงงานสู่น้ำสาธารณะ ที่สำคัญต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้บริการผู้ประกอบการและประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย