รัฐสภา 4 ก.ย.- “พิเชษฐ์” เสียใจ ประชุมแบ่ง กมธ.นัด 2 ไม่คืบ เหตุบางพรรคไม่ถอย ไม่เจรจา ชี้หากตกลงไม่ได้ต้องจับสลากอย่างเสมอภาค
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ในฐานะประธานการประชุมร่วมกันของผู้แทนจากพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 กล่าวว่า การประชุมเรื่องการแบ่ง กมธ. วันนี้ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากแต่ละพรรคการเมืองได้เตรียมชื่อกรรมาธิการฯ ที่ต้องการมาเสนอต่อที่ประชุม แต่ปรากฏว่าบางพรรคมีเป้าหมายซ้ำ และบางพรรคการเมืองไม่ยอมถอย ไม่ยอมเจรจา จึงเป็นที่มาของการตกลงกันไม่ได้ ที่ประชุมจึงไม่สามารถเดินหน้าต่อไปอย่างไร และไม่มีกำหนดว่ากำหนดการประชุมครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ระหว่างนี้จะให้ทุกพรรคไปพูดคุยเจรจาตกลงกันนอกรอบ หากตกลงกันไม่ได้ก็ไม่สามารถนัดประชุมได้
“ถ้าพรรคใดที่ไม่คิดถึงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ไม่คิดถึงการเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยใช้กรรมาธิการฯ เข้าไปทำงาน ก็เสียใจด้วย ที่ไม่สามารถตกลงกันได้จริงๆ เรื่องนี้ไม่ยาก กรรมาธิการแต่ละคณะจะมีองค์ประกอบจากทุกพรรคการเมือง พอทำงานแล้วก็ไม่ได้คิดว่ามาจากพรรคไหน แต่คิดว่าทำเพื่อประชาชน เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่สามารถยอมกันได้” นายพิเชษฐ์กล่าว
นายพิเชษฐ์ ยังกล่าวว่า หากพรรคการเมืองไม่สามารถตกลงกันได้ จะใช้วิธีจับสลากเพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่ ซึ่งจะไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ทุกพรรคจะเท่าเทียมกัน จะใช้หลักการเดียวกับ กกต. ที่ใช้วิธีจับฉลากเลือกเบอร์ผู้สมัคร สส. เพื่อตั้งอยู่บนความยุติธรรม ดังนั้นหากยังคุยกันได้ก็คุย หากคุยไม่ได้ก็คงต้องใช้วิธีนี้ ซึ่งในเดือนกันยายนนี้จะสิ้นสุดปีงบประมาณ 2566 หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรรมาธิการฯ ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยากได้ คณะกรรมาธิการการคมนาคม ที่พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติอยากได้ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคก้าวไกลอยากได้ คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกลและพรรคพลังประชารัฐอยากได้
คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยากได้ รวมถึงคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามบริหารงบประมาณ ซึ่งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยากได้
ทั้งนี้เนื่องจากพรรคหลักยังไม่สามารถแบ่งกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของตนเองได้ ทำให้กรรมาธิการชุดอื่นๆ ก็ไม่สามารถแบ่งได้ เพราะกังวลว่าอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง.-สำนักข่าวไทย