“พล.อ.อนุพงษ์” อำลาสื่อฯ หลังนั่ง มท.1 เป็นเวลา 9 ปีเต็ม

กระทรวงมหาดไทย 30 ส.ค.- “พล.อ.อนุพงษ์” ควง “นริศ” อำลาสื่อฯ ลงจากตำแหน่ง หลังนั่ง มท.1 เป็นเวลา 9 ปีเต็ม ขอติดตามในฐานะประชาชนคนธรรมดา ฝากสื่อนำเสนอข่าวให้สมดุล ชี้ มีอิทธิพลกำหนดทิศทางประเทศ


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) พร้อมด้วยนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) จัดงานเลี้ยงพบปะสื่อมวลชนประจำ กระทรวงมหาดไทย และทำเนียบรัฐบาล เพื่ออำลาตำแหน่ง โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมต่างๆ และข้าราชการกระทรวง มหาดไทยเข้าร่วม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอฝากสังคมไว้กับสื่อมวลชนเพราะมองว่าในสถานการณ์เหตุการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน สื่อฯนั้นมีอิทธิพลกำหนดทิศทางเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งจึงขอฝากประเทศชาติไว้ด้วย


ส่วนหากจะถามว่ารัฐมนตรีที่มาใหม่ ดูแลกระทรวงมหาดไทย นั้น ในเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินเรามาด้วยระบอบประชาธิปไตย เป็นการเลือกตั้งเข้ามาและมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี มีแนวคิดหรือนโยบายแนวทางอย่างไร ถือเป็นอำนาจหน้าที่ เราไม่ต้องไปห่วง ทฤษฎีของตน คือ เมื่อเราคิดและทำก็คิดว่าเราจะทำได้ ขณะที่คนเข้ามาใหม่ เขาคิดจะทำแบบใดก็ต้องเคารพกันไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใย

พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวว่า สมมติว่าใครที่คิดจะทำอะไรแล้วสื่อจะเป็นตัวบาลานซ์ สื่อจะมาวิจารณ์ว่าควรทำไม่ควรทำ และจะมีผลกระทบอย่างไร ตรงนี้จะเป็นการลงตัวของสังคม ใครที่มาใหม่ตนก็ให้กำลังใจ ในการทำงาน ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินจะแนวทางไหนเราก็ต้องเคารพตามอำนาจหน้าที่ของเขา เมื่อพวกเราเป็นประชาชนก็คอยนั่งเชียร์อยู่ข้างนอกคอย นั่งเชียร์ อยู่ข้างนอก เขาทำดีเราก็ได้รับผลประโยชน์ด้วย

“ผมเข้าใจการทำงานของสื่อฯที่อาจจะมีคำถามรุนแรง แต่สื่อฯถือว่ามีความสำคัญต่อประเทศชาติมาก เพราะพูดอะไรสังคมจะฟัง อยากฝากว่าถ้าจะทำให้ขัดแย้งก็ทำได้ ถ้าจะทำให้เบาลงก็ทำได้ ฉะนั้นขอฝากประเทศชาติไว้ด้วย ใครมาใหม่ผมก็ขอให้กำลังใจ ฉะนั้นเราต้องเคารพการตัดสินใจบริหารแผ่นดินของเขา เมื่อพวกเราเป็นประชาชนก็คอยนั่งเชียร์อยู่ข้างนอกคอย เขาทำดีเราก็ได้รับผลประโยชน์ด้วย ส่วนอนาคตของผมขนาดนี้คงต้องรักษาสุขภาพในช่วงท้ายของชีวิตไม่ให้มีปัญหาสุขภาพมาก ต้องดูแลร่างกายพักผ่อน ออกกำลังกายทำในสิ่งที่ควรทำ หลายคนบอกให้ไปเลี้ยงหลาน ไอ้เราก็ยังไม่มีหลาน ลูกไม่ยอมมีเป็นเด็กรุ่นใหม่ มีครอบครัวแต่ไม่มีหลาน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ขอบคุณข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยก็มีความคล้ายกับกองทัพบก แตกต่างกันที่กระทรวงมหาดไทยไม่ต้องสวมเครื่องแบบทุกวัน แต่การทำงานของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตนเชื่อมั่นในความสามารถของข้าราชการ เพียงแต่อย่าไปวุ่นวายในสิ่งที่ไม่ควร แค่นั้น และยอมรับว่าที่ผ่านมาข้าราชการกระทรวงมหาดไทยก็ทำให้ตนมีวันนี้ได้อยู่มาถึง 9 ปี เต็ม และวันนี้ก็เป็นวันที่ตรงเข้ามาเริ่มเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 30 สิงหาคม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ จะใช้เวลาพักผ่อน โดยตั้งใจจะไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่น ที่สำคัญทะเลอันดามันในประเทศไทยก็จะไปให้ได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่ไปทำงาน ไม่เคยเห็นทะเล แม้แต่ภูทับเบิกก็อยากจะเดินทางไปเพราะสวย

จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์ และนายนริศ ได้ร่วมถ่ายภาพกับสื่อมวลชน ข้าราชการบริเวณบันไดทางขึ้นห้องทำงาน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน