“อนุทิน” บอกชินแล้วตกเป็นเป้าสังคม หน้าที่ต้องรับใช้ ปชช.

เมืองทองธานี 7 มี.ค.- “อนุทิน” ขานรับนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมการท่องเที่ยว หลังทัวร์ลง ย้อน “โรม – อังคณา” ไม่ได้อยู่ในวงสนทนา รู้ได้ไง “เนวิน – ทักษิณ” คุยอะไรกัน บอก ชินแล้ว ถูกตกเป็นเป้าสังคม หน้าที่ต้องรับใช้ประชาชน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงกรณีที่ นางอังคณา นีละไพจิตร สว.ตั้งข้อสังเกตถึง การพบกันของผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องพ.ร.บ. การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ แต่เป็นการพูดถึงมติที่คณะกรรมการคดีพิเศษ ที่จะพิจารณารับหรือไม่รับ คดีฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษ ทำให้นายอนุทิน ถึงกับย้อนว่า มันก็ไม่ใช่เรื่องของท่าน จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก่อนที่จะหัวเราะ พวกตนไปคุยกันเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามอะไรมาแล้วไม่ผิดมารยาทก็เปิดเผยทั้งหมด ไม่มีอะไร พร้อมย้ำว่าไม่มีการพูดคุยถึงคดีฮั้วสว. ไม่มีแม้แต่น้อย ตนยืนยันได้

ส่วนมองว่าหลังจากนี้เอกภาพของรัฐบาล จะเป็นเช่นไร หลัง ดีเอสไอ มีผลออกมาเป็นเช่นนี้ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า ผู้สื่อข่าวถามว่าเอกภาพเป็นอย่างไร สัมภาษณ์ตนทุกอาทิตย์ทุกวัน เคยมีครั้งไหนที่ไม่พูดถึงนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ไม่เคย แล้วพูดในเชิงบวกหรือเชิงลบ บวก บวก บวก เพราะฉะนั้นนั่นคือคำตอบ ถ้าคนเราไม่มีความเป็นเอกภาพ มีความขัดแย้งกัน ก็คงพูดถึงกันในเชิงที่ดี คงฝืนใจที่จะพูด แต่ผมไม่เคย เป็นธรรมชาติ แล้วเวลาที่ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานและตัวของผม ก็เห็นท่านพูดในเชิงสร้างสรรค์ เขาเรียกว่า แอ็คชั่นดังกว่าคำพูดอยู่แล้ว


เมื่อถามย้ำว่าแม้ว่าจะบอกว่า บวก บวก บวก แต่ อาจมองได้ว่าเป็นพลังงานบวกเชิงลบ นายอนุทินถึงกับหัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า บวกเชิงลบนั่นคือผู้สื่อข่าวบัญญัติเอง ของตนบวกคือบวก พลังบวกไม่มีลบ Positive จะมา เป็น negative ไม่ได้ ก่อนจะที่ผู้สื่อข่าว จะถามคำถามต่อไปนายอนุทินได้พูดตัดบทว่า “เอ๊า เสี้ยมเข้าไป”

เมื่อถามต่อว่า เมื่อวานมีการประชุมบอร์ดคดีพิเศษ นายอนุทินกล่าวว่า “แล้วคดีพิเศษอยู่กระทรวงอะไรล่ะจ๊ะหนู” ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีสัดส่วนของปลัดกระทรวงมหาดไทยอยู่ด้วย แต่มีการส่งตัวแทนเข้าไป ซึ่งมีการลงมติว่าไม่รับ นายอนุทินอธิบายว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งแรกแล้ว และได้ให้แนวทาง และความเห็นในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว พร้อมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครองไปแทน ซึ่งเป็นไปตามลำดับการมอบหมายงาน และเมื่อวานนี้เป็นการลงมติว่าจะรับเรื่องหรือไม่ และถือว่าอธิบดีกรมการปกครองได้ไปทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องกังวลสงสัย เพราะปลัดกระทรวงอื่นๆก็มอบผู้แทนไป มีเพียงปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าภาพที่ไปเท่านั้นเอง ทำไมต้องมาเน้นที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะกล่าวต่ออีกว่า มีรายการ รายการหนึ่งบอกว่าแนวทางจะเป็นอย่างไรให้ดูที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำไมถึงให้ร้ายกับกระทรวงมหาดไทยขนาดนี้ ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่

ส่วนจะสามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่มีใบสั่ง นายอนุทินถามกลับว่า ของใคร ก่อนจะกล่าวต่อว่า ข้อสั่งการของตนไปยังกระทรวงมหาดไทยน่ะหรือ ให้ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และให้ดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ใจ รวมไปถึงให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหานี่คือข้อสั่งการ และเป็นแนวทาง


ส่วนรู้สึกกังวลใจหรือไม่ที่ถูกตกเป็นเป้าของสังคม นายอนุทินกล่าวว่ามันชินแล้ว เราอยู่ตรงนี้ต้องทำงานรับใช้ประชาชนตั้ง 75 ล้านคน จะหวังให้คนทั้ง 75 คน จะเห็นด้วยหรือเห็นชอบกับเราทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัติ คือต้องทำตามกฎหมาย และทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด

จากนั้น นายอนุทิน ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่า เป็นพลังงานเชิงบวกบวกใช่หรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า อะไรคือพลังงานบวกเชิงลบ

ก่อนที่นายอนุทิน จะย้อนถามอีกว่า ที่ถามเรื่องประเด็นนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ไม่เชื่อว่า การพบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่มีเรื่องคดีฮั้วสว.นั้น นายอนุทินสวนกลับว่า “คนที่พูดทั้งหมดไม่ได้อยู่ในวง”

เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้เป็นตำบลกระสุนตกหรือไม่ นายอนุทิน ตอบสั้นๆว่า ทัวร์ลง และบ้านตนลานจอดรถจะไม่ใหญ่เท่าบ้านของนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอให้ทัวร์ไปลงที่จังหวัดอุทัยธานีแทน และจะให้ตนทำตัวน่ารักเหมือนนางสาวซาบีดาก็ไม่ได้ เพราะทำไม่ค่อยเป็น.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย