ศาลฎีกา 29 มิ.ย.- “ยิ่งลักษณ์” มาศาลคดีโครงการรับจำนำข้าว สอบพยาน 3 ปาก ขอความเป็นธรรมศาลให้สืบพยานครบทุกปาก และยื่นหลักฐานใหม่ขอให้ศาลออกไปเผชิญสืบโรงสีข้าวและคลังข้าวจังหวัดอ่างทอง ที่เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์เข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบความเสียหายและการทุจริต ปัดตอบทหารเตรียมจัดตั้งพรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าเมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับฟังการไต่สวน คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตจนรัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท โดยการไต่สวนพยานจำเลย ในวันนี้จำนวน 3 ปาก ประกอบด้วย นายอดุลย์ ยุววิทยาพานิชย์ อดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการจีทูจี โดยจะสืบพยานเพื่อยืนยันว่าผลการสอบข้อเท็จจริงการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีเป็นการซื้อขายจริงไม่ใช่จีทูจีเก๊อย่างที่กล่าวหา
ส่วนพยานอีกสองปากคือ น.ส. นิรัชฌา ไกยสวน บุตรสาวของชาวนาที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายที่ จ.ร้อยเอ็ด จะมาชี้แจงยืนยันว่าบิดาไม่ได้มีปัญหาการรับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว แต่มีปัญหาส่วนตัวและโรคประจำตัว และพยานสุดท้ายคือนายบุญช่วย หอมพญา บิดาของชาวนาที่เสียชีวิตจากการตายผูกคอตาย ที่ จ. นนทบุรี ที่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากปัญหาส่วนตัว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการสู้คดีว่า จะขอความเป็นธรรมต่อศาล ให้สืบพยานของจำเลยครบทุกปาก เพราะยังมีพยานสำคัญอีกจำนวนมาก ที่ต้องเข้าไต่สวนต่อศาลอีกสองนัดที่เหลือ ล่าสุดทนายความไม่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขยายเวลาสืบพยานเพิ่มเติม เพราะยังเหลือพยานอีก 20 ปาก ก็ขึ้นอยู่ดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ได้ยื่นหลักฐานใหม่เป็นคำร้องขอให้ศาลออกไปเผชิญสืบโรงสีข้าวและคลังข้าวจังหวัดอ่างทอง 16 แห่ง ที่ล่าสุดพบว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบความเสียหายและการทุจริต จึงเป็นหลักฐานใหม่ที่จะยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวของตนเองไม่ได้ทุจริตและเน่าเสียอย่างที่ถูกล่าวหา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยร้องในประเด็นนี้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยิบมาพิจารณา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้กล่าวถึงโรดแมปการเลือกตั้งว่า อยากให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายไปได้และมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง แต่เมื่อถามย้ำถึงกรณีที่ทหารเตรียมจัดตั้งพรรคการเมือง นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เพียงแต่กล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนทุกคนอยากได้ผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง และมาจากระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความชัดเจนว่าโรดแมปจะเดินหน้าอย่างไรและการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งหากสิ่งใดที่ยังเป็นปัญหาควรรีบแก้ไขและพิจารณาให้รอบคอบ สอดรับกับประชาธิปไตย และนำไปสู่การเลือกตั้งได้ ส่วนประเด็นไพรมารี่โหวตพรรคเพื่อไทยได้ยื่นหนังสือไปยัง ประธานกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สนช.แล้ว เพื่อแสดงถึงความเป็นห่วงการใช้ไพรมารี่โหวต .-สำนักข่าวไทย