“อนุสรณ์”แนะทีมเศรษฐกิจรัฐบาลชุดใหม่  

กรุงเทพฯ 23 ส.ค. – “อนุสรณ์”แนะทีมเศรษฐกิจ เลื่อนเวลา เพิ่มเงินเดือน   เพิ่มค่าแรงโอนเงินดิจิทัล หวั่นกระทบขาดดุลงบประมาณ 


รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายการแจกกระเป๋าเงินดิจิทัลไม่มีความจำเป็นต้องรีบทำในช่วงนี้ ควรใช้นโยบายนี้ เมื่อเศรษฐกิจเกิดวิกฤติ หากยังเดินหน้างบประมาณปี  2567 ยังไม่สามารถรองรับได้ จึงหาแหล่ง กู้เงินเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 แสนล้านบาท อาจทำให้การขาดดุลงบประมาณทะลุ 1 ล้านล้านบาท สำหรับ การผลักดันนโยบายสวัสดิการ และเพิ่มรายได้ให้ประชาชนผ่านการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทในปี 2570 และเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว  

ส่วนนโยบายจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ ส่วนการเพิ่มราคาพืชผลเกษตรนั้นควรใช้วิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพิ่มมูลค่าด้วยแปรรูปด้วยนวัตกรรมและการตลาด พยายามหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการแทรกแซงราคา เพราะเป็นภาระทางงบประมาณ เกิดการรั่วไหลได้ง่ายและทำให้ภาคเกษตรกรรมอ่อนแอในระยะยาว  คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี  2566  ร้อยละ 2.5-3  เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคกระเตื้องขึ้นบ้าง  ส่วนภาคการลงทุนจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในไตรมาส 4 หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว แม้ล่าช้ามามากกว่า 3 เดือน 


พรรคเพื่อไทย  เน้นนโยบายทางเศรษฐกิจ นักลงทุนและตลาดการเงิน จึงตอบสนองในทางบวกมากกว่า กลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่อาศัยอำนาจผูกขาดย่อมได้รับผลกระทบ การเปิดประตูเปิดโอกาสให้กับทุนขนาดกลางขนาดเล็กมากกว่า รัฐบาลใหม่ จึงเน้นการทำงานกระตุ้นเศรษฐกิจ  ด้วยมาตรการประชานิยมและสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อทำให้ประชาชนพอใจ ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ได้มีปัญหาวิกฤติ  เพียงมีอัตราการขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ  การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว การบริโภค การลงทุนทยอยดีขึ้น แม้การส่งออกยังติดลบ คาดว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ยังเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจ เพราะการจัดทำงบประมาณปี 67 ล่าช้า

 มองว่า รัฐบาลใหม่ ไม่ควรเน้นการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ควรให้น้ำหนักไป ยังการสร้างฐานรายได้ใหม่ให้กับประชาชน และระบบเศรษฐกิจด้วยการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ จากนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างทางการเมือง รัฐบาลใหม่ต้องเดินหน้าแก้ไขทันที มีดังนี้  

  1. ปัญหาโครงสร้างระบบการเมืองที่บิดเบี้ยวและไม่เป็นประชาธิปไตยจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องทบทวนรื้อถอนปรับปรุง ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ขาดพลวัตในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ต้องเดินหน้าปฏิรูประบบองค์กรอิสระ  ระบบวุฒิสภา  ผลักดันให้มีการแก้ไขความสงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ด้วยมาตรการเมือง เศรษฐกิจ แทน มาตรการทางการทหาร ไทย ควร เป็นเจ้าภาพให้เกิดสันติธรรมประชาธิปไตยในเมียนมา เกิดความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทยเมียนมา  
  2. ปัญหาโครงสร้างประชากรสังคมสูงวัย ประชากรในวัยทำงานลดลง ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ฐานภาษีหดตัวลงจากประชากรวัยทำงานลดลง ประเทศไทยมีผู้สูงวัยอายุเกิน 60 ปีเกือบร้อยละ 20  ของประชากรในปีนี้  โดยประชากรผู้สูงวัยส่วนใหญ่มีเงินออมไม่พอต่อความจำเป็นในการดำรงชีพ การจ่ายเบี้ยยังชีพนั้นไม่เพียงพอ ต้องสร้างระบบบำนาญเพื่อผู้สูงวัยที่อยู่นอกระบบสวัสดิการแรงงานในระบบ อัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราการตายในปี พ.ศ. 2564 อัตราการเจริญพันธุ์อยู่เพียง 1.16 (อัตราการเจริญพันธุ์ต่ำกว่า 2.1 ประชากรจะเริ่มหดตัว) มีอัตราเจริญพันธุ์ต่ำที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จำนวนประชากรไทยจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งและส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยในอีก 60-70 ปีข้างหน้า หากสังคมไทยเต็มไปด้วยผู้สูงอายุ แล้วใครจะจ่ายภาษี ใครจะทำงาน ใครจะดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงวัย รัฐบาลใหม่ต้องมียุทธศาสตร์ นโยบายและแผนปฏิบัติการอย่างชัดจนในแก้ปัญหาโครงสร้างประชากรดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้ 
  3. สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเกินกว่าร้อยละ 80 นานมากจะส่งผลต่อเสถียรภาพต่อระบบการเงินและข้อจำกัดในการเติบโตของเศรษฐกิจ ตัวเลขล่าสุดไตรมาสแรกปีนี้ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีขึ้นมาเกือบแตะร้อยละ 91  ลูกหนี้มีพฤติกรรมก่อหนี้ใหม่ไปชำระหนี้เก่ามากขึ้นกว่าเดิม สะท้อนว่า ภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวและกับดักหนี้รุนแรงขึ้นและยิ่งเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นการแก้ไขปัญหาหนี้สินก็ยากขึ้น เมื่อไม่ได้ก่อหนี้มาใช้จ่าย แต่ไปชำระหนี้เดิม ผลของการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคต่อเศรษฐกิจย่อมน้อยลง 
  4. ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและปัญหากับดักความยากจนข้ามรุ่น ไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจติดอันดับต้นๆของโลกและรุนแรงมากขึ้นช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิดเมื่อปี 2563-2564 เป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างที่ต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น จำนวนมาก ครัวเรือนเหล่านี้ส่วนใหญ่ ไม่มีเงินออม การศึกษาต่ำ และอัตราการพึ่งพิงสูง โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ครัวเรือนเข้าข่ายเป็นครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น คือ การขาดความมั่นคงทางการเงินเนื่องจากไม่มีเงินออม (ร้อยละ 60.3) รองลงมาคือ ความขัดสนทางการศึกษา จากการที่เด็กอายุ 6-14 ปี ไม่ได้รับการศึกษาภาคบังคับครบ 9 ปี (ร้อยละ 36.4) โดยเด็กจำนวนมากต้องหลุดออกนอกระบบการศึกษา  
  5. ปัญหาการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมและโอกาสทางการศึกษา การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี พ.ศ. 2570 จะช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง การสร้างโอกาสทางการศึกษา การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและการเพิ่มผลิตภาพการผลิตของแรงงานเป็นคำตอบต่อความท้าทายระยะยาวมากกว่าเพียงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ     
  6. ความถดถอยของขีดความสามารถในการแข่งขันและการไม่มีเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความอ่อนแอของภาคส่งออกไทย  ธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่ธุรกิจอุตสาหกรรมแห่งอนาคต มีธุรกิจอุตสาหกรรม New S Curve น้อยมาก 
  7. ค่าใช้จ่ายทางด้านสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสวัสดิการทางด้านสุขภาพ รัฐมีข้อจำกัดรายได้ ต้องปฏิรูปกองทุนประกันสังคมครั้งใหญ่ รองรับมือกับสังคมผู้สูงวัย กองทุนประกันสังคม อาจประสบปัญหาสภาพคล่องได้ใน 30 ปีข้างหน้า หากไม่มีเพิ่มการจ่ายเงินสมทบหรือยืดอายุเกษียณเพื่อรับเงินบำนาญ  
  8. ปัญหาสิ่งแวดล้อมและความทรุดโทรมของทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ทั้งปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรง น้ำเน่าเสียรุนแรง ปัญหาขยะมีพิษ ดินเค็ม ขาดน้ำในหน้าแล้ง น้ำท่วมในหน้าฝน สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องทุ่มเทงบประมาณแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพราะกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน    
  9. นโยบายกัญชา ควรจำกัดให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น และควรส่งเสริมให้เกิดการวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ไม่ควรให้ใช้ในสันทนาการเพราะเป็นสิ่งเสพติด .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”