เรือนจำพิเศษกรุงเทพซ้อมแผนรับ “ทักษิณ”

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครซักซ้อมแผนรับ “ทักษิณ” ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ยืนยันตำรวจมีความพร้อมทั้งแผนรับและมาตรการต่างๆ


บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเป็นสถานที่ควบคุมตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยเครื่องบินส่วนตัว และจะถูกส่งตัวไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

โดยช่วงบ่ายวันนี้ (21 ส.ค.) มีการเตรียมความพร้อมเส้นทางเข้าภายในเรือนจำ และจัดเตรียมเต็นท์ซึ่งเป็นสถานที่พักคอยญาติที่จะเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ นอกจากนั้นยังมีเต็นท์เตรียมไว้ให้สื่อมวลชน ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานรับเลี้ยงเด็กบุญญาทร


พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผย ถึงกรณีการซักซ้อมแผนรับนายทักษิณ และเตรียมการตรวจพื้นที่ในแต่ละจุด พร้อมให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์แต่ละพื้นที่เป็นผู้ชี้แจงการปฏิบัติว่า วันนี้เป็นการตรวจความพร้อมพื้นที่เป็นครั้งที่ 2 ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมทั้งเรื่องแผนรับและมาตรการต่างๆ พร้อมกับประสานทางท่าอากาศยานดอนเมืองเรียบร้อย

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือเกี่ยวกับการควบคุมพื้นที่ หากเป็นพื้นที่ภายในเรือนจำ ผู้รับผิดชอบจะเป็นนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำ ส่วนของตำรวจจะจัดกองกำลังสนับสนุนเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร ไม่ให้จราจรติดขัด รวมถึงร่วมประชาสัมพันธ์ที่จอดรถสำหรับประชาชนที่จะมาต้อนรับนายทักษิณด้วย โดยจะไม่ให้มีการจอดรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ริมถนนเด็ดขาด

ขณะที่ภายในเรือนจำ และทัณฑสถาน ในเขตลาดยาว ที่อยู่ภายในเขตพื้นที่ควบคุม ออกประกาศงดเยี่ยมญาติภายในเรือนจำ 1 วัน และจะเปิดให้เยี่ยมได้ตามปกติในวันที่ 23 สิงหาคมนี้


ต่อมาเวลา 16.10 น. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ภายหลังการประชุมหารือกับตำรวจ ซึ่งทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ปฏิเสธให้ข้อมูลด้วยตัวเอง แต่มอบหมายให้นายดำรงค์ วังศรีคูณ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ตอบข้อซักถาม โดยระบุสั้นๆ ว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมความพร้อมของเส้นทาง ตั้งแต่สนามบินดอนเมือง ไปยังศาลฎีกาฯ ก่อนมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รวมถึงการรับตัวนายทักษิณจะเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตามปกติของผู้ต้องขังใหม่ เพราะเมื่อมาถึงจะนำตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และจะมีการตรวจร่างกายโดยแพทย์ อีกทั้งจะให้กักตัวตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 10 วัน ส่วนจะนำตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแพทย์ที่เป็นผู้ตรวจร่างกาย

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนญาติหรือทนายความจะสามารถเยี่ยมในวันถัดไปได้หรือไม่นั้น ต้องสอบถามทางเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตนไม่สามารถบอกได้ แต่จากการประชุมเบื้องต้นวันนี้ ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมีความพร้อมในการรับตัวนายทักษิณ

เมื่อถามว่าระหว่างการควบคุมตัวนายทักษิณจากศาลฎีกาฯ มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กี่นายรับหน้าที่ควบคุมตัว นายดำรงค์ บอกว่า ตนไม่สามารถทราบ แต่เจ้าหน้าที่มีการรองรับแผนเผชิญเหตุต่างๆ ทั้งของกลุ่มมือที่สาม หรือผู้ไม่ประสงค์ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการวางแผนรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว

ส่วนพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจนายทักษิณ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้จัดเตรียมพื้นที่ด้านข้างเรือนจำไว้ให้ และจะมีการคัดกรองบุคคลเข้าภายในพื้นที่เรือนจำ ซึ่งจะไม่อนุญาตให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาด้านในโดยเด็ดขาด แต่หากใครมีการลงทะเบียนทำเรื่องขออนุญาตเข้าพื้นที่กับกรมราชทัณฑ์ก่อนหน้านี้จะอนุญาตให้เพียงผู้ที่ทำเรื่องเข้ามาเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีการเตรียมพื้นที่ ทำความสะอาด และย้ายเต็นท์ที่ไว้สำหรับรอเยี่ยมญาติ จากเดิมอยู่บริเวณลานจอดรถของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ย้ายไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน รวมถึงมีการทำความสะอาดสถานรับเลี้ยงบุตรบุญญาทร ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านข้างเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และมีการนำเต็นท์ตั้งไว้สำหรับรองรับสื่อมวลชน

เมื่อสอบถามนายยงยุทธ ประมวลสุข นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญการพิเศษ ที่ดูแลการทำความสะอาด กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เรือนจำกลางคลองเปรม และทัณฑสถานหญิงกลาง จะงดญาติเข้าเยี่ยมทั้งหมด และจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ของรั้วราชทัณฑ์โดยเด็ดขาด ซึ่งจะทำให้กลุ่มพี่น้องคนเสื้อแดงที่จะเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณในวันพรุ่งนี้จะไม่สามารถเข้ามาได้ ส่วนจะมีสถานที่จัดเตรียมไว้ให้หรือไม่ ต้องประสานกับทางตำรวจในพื้นที่อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง