สภาพัฒน์ ปรับลดจีดีพี ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3 

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – สภาพัฒน์ ปรับลดจีดีพี ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3 แนะเร่งอัดฉีดเงินงบประมาณปี 67 ไปพลางก่อน หลังตั้งรัฐบาลล่าช้า แนะอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวยุโรป อินเดีย เกาะติดเศรษฐกิจจีนมีปัญหา หวั่นปัญหาหนี้ครัวเรือน 


นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 66 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3 จากเดิมขยายตัว 2.7-3.7 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ามีปัญหาจากการจัดตั้งรัฐบาล เศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบการส่งออกติดลบติดต่อกันหลายเดือน ดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลก ยังคงอยู่ในระดับสูง มูลค่าการส่งออกในรูปเงินดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 1.8 การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวร้อยละ 5 การบริโภคภาครัฐติดลบร้อยละ -3.1 การลงทุนรวมจะและร้อยละ 1.6 ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในช่วงร้อยละ 1.7 – 2.2 ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 1.2 ของ GDP 

4 หน่วยงานจัดทำงบประมาณ ประกอบด้วย คลัง สภาพัฒน์ ธปท. สำนักงบประมาณ เตรียมเสนอ ครม. เห็นชอบปฏิทินการเบิกจ่ายงบพลางไปก่อน ทั้งงบประจำ ส่วนงบลงทุนคาดจะออกสู่ระบบได้ใน และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายตามปีปฏิทินถึงสิ้นปีนี้ วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท และรัฐวิสาหกิจลงทุนตามปีงบประมาณอีก 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายเงินลงทุนออกไปในช่วงเดือนเมษายนปี 67 ในส่วนของกระทรวงการคลัง เร่งหาแหล่งเงินทุนใหม่รองรับโครงการงบผูกพันต่อเนื่องของรัฐวิสหากิจ ในส่วนของบอร์ดสภาพัฒน์ได้เห็นชอบโครงการลงทุนผูกพัน รอเสนอครม.พิจารณาอัดเงินออกสู่ระบบ 1 แสนล้านบาท 


ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติรอดูความชัดเจนจัดตั้งรัฐบาล หลังโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 22 สิงหาคม แนะดูแลปัญหาภัยแล้ง  ฟื้นโครงการประกันภัยพืชผล เพื่อลดต้นทุนและดูแลภัยพิบัติให้เกษตรกร การเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ ทั้งค้าขายชายแดน ประเทศตะวันออกกลาง เร่งอำนวยความสะดวกการท่องเที่ยว ทั้งยุโรป อินเดีย ทดแทนนักท่องเที่ยวจีน เพราะเศรษฐกิจชะลอตัว ยอมรับภาระหนี้ครัวเรือน 16 ล้านล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 90.06 ของจีดีพียังเป็นห่วง รัฐบาลชุดใหม่ต้องหามาตรการมาดูแล เพราะการบริโภคภายในประเทศ ยังเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ฯ เปิดเผยจีดีพีไตรมาส 2/2566 ขยายตัวร้อยละ 1.8 ต่ำกว่าคาดการณ์ การส่งออกหดตัวร้อยละ 5.8 นับว่าหดตัวต่อเนื่องหลายเดือน เงินโอนจากภาครัฐช่วยเหลือช่วงโควิดหมดไป จึงกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชน ภาพรวมการลงทุนขยายตัวร้อยละ 0.4 จากไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 3.1  การส่งออกครึ่งปีแรกติดลบร้อยละ 5.0 การทำรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ  1.8 แสนล้านบาท.-สำนักข่าวไทย     


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง