ทลาย “แก๊งไข่หวง” ขบวนการค้ายาข้ามชาติชาวไต้หวัน

กทม. 19 ส.ค.-สืบนครบาลทลาย “แก๊งไข่หวง” รวบ 4 เจ้าพ่อ ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวไต้หวัน แฝงตัวเช่าบ้านหรูในไทย ตั้งเป็นฐานลำเลียงยาเสพติด ซุกเพลารถส่งขายที่ไต้หวัน และประเทศที่3

เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ศอ.ปส.ตร ชุดปฏิบัติการที่ 5 นำตรวจสอบ บ้านหลังหนึ่งย่านกรุงเทพกรีฑา จับกุมผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 6 คน และ สาวไทย 1 คน พร้อมยึด ยาเสพติด กัญชา 10 กิโลกรัม ไฟวไฟว์ 29 เม็ด ไอซ์ ประมาณ 1 กก. เคตามีน 17 กรัม แฮปปี้วอเตอร์ 1 ซอง แท่งเหล็กเพลากลางรถบรรทุก 17 แท่ง อุปกรณ์เพื่อตัดแปลงท่านกล่าวเพื่อใช้ซุกยาเสพติดกว่า 15 รายการ โดยมีแผนประทุษกรรมสุดแนบเนียน “ซุกเพลารถ” ตบตาการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่


พล.ต.อ.ชินภัทร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ ได้ ผู้ต้องหา ตัวการสำคัญ 6 คน เช่น นายเซิง เยี่ยน หมิง หรือไข่หวง หัวหน้าแก๊ง, นายเฉิน ยู่ หนิง ฉายา ขาลาย, นายหลิน เฉอ เฉิง, นายเฉิน ยี่ เหวิน และมี นส.อภิญญา หญิงไทยอีก 1 คน (หลบหนีออกนอกประเทศ) ตรวจสอบชาวไต้หวันมีหมายจับในคดียาเสพติดของไต้หวันทุกคนก่อนหลบหนีเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ มาเช่าบ้านหรู ในพื้นที่กรุงเทพฯและชานเมือง ในราคา 6 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท โดยยาเสพติดพบว่านำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย สำเลียงเข้ามาซุกซ่อนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนนำ ไอซ์ กัญชา มายัดใส่เพลารถที่บ้านพักย่านกรุงเทพกรีฑา เพื่อส่งออกไปยังประเทศไต้หวันและประเทศที่3 ซึ่งหากเล็ดลอดออกไปประเทศที่3 ได้จะมีมูลค่ามหาศาล โดยที่ผ่านมา การปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะการลำเลียงไอซ์ส่งไปที่ประเทศไต้หวันมักพบในรายหลากหลายรูปแบบเช่น การใส่ ในลู่วิ่ง เครื่องรถ แจกัน หรือเฟอร์นิเจอร์ พบว่า เป็นการพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จากการสอบสวน เบื้องต้นก็ต้องหาอ้างว่าเป็นเพียงการทดสอบ เท่านั้น แต่ยังทำไม่สำเร็จ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ

นอกจากนี้ ยังนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหรูอีกหนึ่งหลังย่านบางพลี ของขบวนการดังกล่าว พบเป็นแหล่งผลิต และผสมยาแฮปปี้ วอเตอร์ ที่มักพบใช้ในปาร์ตี้ยาเสพติด จำหน่ายตามสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพ และจำหน่ายทางช่องทางเคทีวีของชาวจีน พบว่านำถุงคอลลาเจนชื่อดัง มาใส่ตัวยา จากการตรวจค้นพบของกลางไอซ์ เคตามีน ไฟว์ไฟว์ รวมถึงซองเปล่า เครื่องปั่น จำนวนหลายรายการ ซึ่งจุดนี้จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 คน รวมปฎิบัติการตรวจค้นบ้าน 2 หลัง 2 จุด กลุ่มผู้ต้องหาได้ 6 คน


ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช บอกว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล ร่วมกับนักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นที่ 111 ใช้เวลากว่า3 เดือนในการสืบสวนขยายผล โดยก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากสายลับกลุ่มชายชาวไต้หวันสักลาย ประสานมายังตน จึงส่งทีมงาน ตามสะกดรอย จนพบแท่งเพลา กว่า10 แท่งและขยายผลจนเจอยาเสพติดซึ่งเป็นขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติ ระดับ “4 ราชายาเสพติดไต้หวัน” มีนายไข่หวง เป็นหัวหน้า แต่ถูกตามล่าตามหมายจับจากไต้หวันจึงหลบหนีเข้ามากบดานในไทย กระทั่งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมาการข่าวพบว่าเตรียมเคลื่อนย้ายแท่งเพลา ไปขึ้นเรือขนส่งทางทะเลจึงนำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว ทั้ง 2 หลัง // โดยจุดแรกเข้าค้นบ้านหรูย่านบางพลีสมุทรปราการ ซึ่งคนไต้หวันมาช่าไว้ในราคาประมาณ 100,000 บาทต่อเดือนไว้ เป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติดที่ลำเลียงมาจากพื้นที่ภาคเหนือ และเป็นแหล่งผลิตยาแฮปปี้วอเตอร์จำหน่ายในสถานบันเทิง ก่อนที่ผู้ต้องหาอีกชุดจะไปนำยาเสพติดมาทำการบรรจุใส่แท่งเพลารถ ที่บ้านพักในพื้นที่กรุงเทพกรีฑา ซึ่งเช่าในราคา 60,000 บาทต่อเดือน

สอบสวนหัวหน้าขบวนการรับสารภาพอ้างว่าเมื่อเจ็ดเดือนก่อนถูกตำรวจไต้หวันจับกุมและออกข่าวดังถึงจ้างทนายสู้คดีประกันตัวออกมาก่อนหลบหนีเข้าไทยโดยแอบขึ้นเรือสินค้าเป็นเวลากว่า 15 วันจนมาถึงประเทศกัมพูชาก่อนหลบหนีเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีผู้ร่วมขบวนการชื่อ”เสี่ยวผ้าง “ อยู่ในไต้หวันคอยรับยาเสพติดจากที่ตนส่งไปจากประเทศไทย แต่ได้เห็นข่าวเรื่องการลักลอบขนยาเสพติดและเฮโรอีนโดยการพายัดลงไปในเพลารถและเชื่อมเพื่อปกปิดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ง่ายจึงลองนำมาทำดูโดยไปซื้อเพลารถที่จังหวัดชลบุรีและซื้อยาเสพติดมาจากเพื่อนชาวไต้หวันก่อนมาดำเนินการอยากใส่เพลารถ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่