กรุงเทพฯ 10 ส.ค.- คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในห้างฯ ดังย่านสุขาภิบาล 5 กวาดทอง และเงินสดเกือบ 2 ล้านบาท สารภาพทำอาชีพช่างทำกระจกอะลูมิเนียม แต่ติดหนี้พนันออนไลน์ นำเงินมัดจำของลูกค้าไปใช้หนี้พนันจนเงินหมุนไม่ทัน โดยวางแผนจะก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ทันได้ลงมือ
จากกรณีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองรูปพรรณและเงินสดและทองรูปพรรณภายในร้านทองที่ห้างฯ บิ๊กซี ฟู้ดเพลส สุขาภิบาล 5 เขตสายไหม โดย ใช้วิธีการฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ตู้เคาน์เตอร์ ชักไฟแช็กขู่พนักงานว่าจะเผาร้าน ทำให้พนักงานตื่นกลัว หนีเอาชีวิตรอด ก่อนคนร้ายกวาดทรัพย์สินเป็น เงินสด 200,000 บาท, สร้อยคอทองคำ 2 สลึง จำนวน 16 เส้น , สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 22 เส้น และสร้อยคอทองคำ 2 บาท 9 เส้น รวมทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไป 48 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 1.9 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อค่ำวานนี้ (9 ส.ค.66)
ล่าสุดเวลา 17.00. น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับตำรวจสืบสวนนครบาล 2 เข้าสอบปากคำนายวินัย อายุ 40 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 794/2566 ลงวันที่ 10 ส.ค.2566 ในข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน” ได้แล้ว โดยจับกุมได้ที่บริเวณซอยเอกมัย 22
พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับทำกระจกอะลูมิเนียม มีครอบครัวแล้ว โดยมีภรรยา 1 คน และลูกอีก 3 คน แต่ติดการพนันออนไลน์เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท จึงนำเงินมัดจำของลูกค้าไปใช้หนี้พนันจนเงินหมุนไม่ทัน เมื่อลูกค้าทวงถามจึงทำให้เกิดความกดดันตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว ใช้เจลแอลกอฮอล์ผสมทินเนอร์เข้าไปขู่พนักงานในร้านทองว่าจะเผาร้าน
หลังจากก่อเหตุ นายวินัย ไปนอนที่บ้านเพื่อนภายในซอยรามอินทรา 31 แล้วจอดรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้ ก่อนถูกตำรวจตามไปจับกุมได้ที่ย่านเอกมัย ขณะเอาเงินไปเที่ยวอาบอบนวด เมื่อตรวจค้นพบทองรูปพรรณของกลางอยู่ในกระเป๋าสะพาย และเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายวินัยอ้างว่าได้นำเงินสดของกลางไปโอนใช้หนี้ค่าวัสดุทำกระจกอะลูมิเนียมจำนวนกว่า 100,000 บาท
จากการสอบปากคำยังพบว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุมีการวางแผนจะก่อเหตุถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ครั้งแรกจะก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารแห่งหนึ่ง ย่าน กม.4 ถนนรามอินทรา โดยเตรียมระเบิดเวลาปลอมไว้ก่อเหตุ แต่ต้องเปลี่ยนใจล้มล้มเลิกไป เพราะแม่โทรศัพท์มาหาพอดี ส่วนครั้งที่ 2 เตรียมก่อเหตุที่ร้านทองในห้างฯ บิ๊กซี ย่านถนนสุขาภิบาล 5 อีกสาขาหนึ่ง แต่ในขณะที่เตรียมก่อเหตุนั้น การจราจรติดขัดจึงตัดสินใจล้มเลิกไป จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม จะต้องให้เจ้าของร้านทองมายืนยันจำนวนทองรูปพรรณว่าได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่าเจ้าของร้านยืนยันว่าคนร้ายได้ทองไป 28 บาท เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาแล้วเสร็จก็จะนำตัวส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว.-สำนักข่าวไทย