fbpx

รวบเยาวชนชายวัย 17 ควงปืนบุกชิงทองหนัก 5 บาท ย่านรัชดาฯ-แจ้ง 4 ข้อหา

กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – รวบเยาวชนชายวัย 17 ปี ควงปืนบุกเดี่ยวชิงสร้อยทองหนัก 5 บาท ร้านทองแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าดังย่านรัชดาภิเษก ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก


เมื่อเวลา 12.30 น. ตำรวจ สน.ห้วยขวาง พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าย่าน ถ.รัชดาภิเษก โดยที่เกิดเหตุตั้งอยู่บนชั้น 2 ใกล้กับเชิงบันไดเลื่อน พบพนักงานในร้านอยู่ในอาการตื่นตกใจ และให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกแก๊ปสีขาว ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีดำ มีกระเป๋าสะพายข้าง ทำทีเข้ามาขอดูทอง ก่อนจะชิงทรัพย์ทองคำหนัก 5 บาท แล้ววิ่งหลบหนีลงบันไดเลื่อนไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว ระหว่างวิ่งหลบหนีได้ทำไฟแช็กและแมกกาซีนปืนหล่นไว้ตรงบันไดเลื่อนขึ้นลงชั้น 1 จากนั้นวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทาดำ ที่จอดอยู่ด้านข้างของห้างหนีไป

ด้าน ผกก.สน.ห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายมาเดินดูลาดเลาหน้าร้านแล้วเดินออกไปลักษณะเหมือนว่าชั่งใจจะก่อเหตุหรือไม่ จากนั้นกลับมาที่ร้านอีกครั้ง โดยยืนอยู่ข้างร้าน และขอพนักงานร้านดูสร้อยคอทองคำ ซึ่งมีลักษณะพิรุธ พนักงานจึงเรียกให้คนร้ายเข้ามาดูทองในร้าน โดยคนร้ายทำทีขอดูสร้อยข้อมือ 2 เส้น โดยเส้นแรกดูแล้วก็คืนให้พนักงาน แต่เส้นที่ 2 ปรากฏว่าระหว่างที่คนร้ายกำลังดูสร้อย พนักงานเห็นว่ามีลักษณะพิรุธ มือไม้สั่น ขณะนั้นคนร้ายสวมหมวก หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าอยู่ จึงกำลังจะบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ออกก่อน แต่ไม่ทัน คนร้ายคว้าสร้อยข้อมือทองคำ 5 บาท วิ่งออกไปจากร้านทันที ก่อนไปสะดุดทางต่างระดับทิ้งรองเท้าแตะเอาไว้ โดยมีพนักงานร้านทองวิ่งตามคนร้ายไป แต่เมื่อถึงบันไดเลื่อนชั้น 1 คนร้ายคว้าปืนหันมายิงพนักงานร้านถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกแรกกระสุนด้าน และครั้งที่ 2 กระสุนลั่นลงพื้น จากนั้นวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที


จับเยาวชน 17 ปี ชิงทองในห้างฯ ย่านรัชดาฯ
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนมีการพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เป็นชายอายุ 17-20 ปี พักอาศัยอยู่ในย่านห้วยขวาง ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ จึงสอบปากคำพยานแวดล้อมและญาติพี่น้อง เพื่อรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ โดยได้เบาะแสว่าหลังก่อเหตุผู้ต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปแยกห้วยขวาง ออกไปถนนวิภาวดีรังสิต

ล่าสุดตำรวจตามรวบตัวเยาวชนชายอายุ 17 ปี ได้แล้วที่แฟลตแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง พร้อมยึดของกลางสร้อยข้อมือหนัก 5 บาท และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนนั้นหลังก่อเหตุได้โยนทิ้งคลองรังสิต จากนั้นนำ ตัวไปชี้จุดทิ้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.ห้วยขวาง

โดยผู้ก่อเหตุจะถูกแจ้งดำเนินคดีรวม 4 ข้อหา คือ ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ, พยายามฆ่าผู้อื่น, ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง ชาวบ้านหวั่นเขาถล่มซ้ำ

หลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ จ.ภูเก็ต มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่เผชิญกับน้ำท่วมขัง ขณะที่พื้นที่ ต.กะรน จุดที่เคยเกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่อยู่อย่างผวา เพราะกลัวดินจากภูเขาจะถล่มซ้ำอีก

ช่วย 143 นักท่องเที่ยวติดเกาะราชาใหญ่ ขึ้นฝั่งภูเก็ตปลอดภัย

ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ส่งเรือ ต.111 ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ 143 คน ติดค้างบนเกาะราชาใหญ่ กลับเข้าฝั่ง จ.ภูเก็ต ได้อย่างปลอดภัย

น้ำในตัวเมืองหนองคายใกล้แห้ง หลังโขงพ้นวิกฤติ

หลายตำบลใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย น้ำยังท่วมสูงและเพิ่มระดับ บางจุดถูกตัดขาดมากว่า 2 สัปดาห์ ถือว่าหนักสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่ในตัวเมือง น้ำใกล้แห้ง หลังระดับแม่น้ำโขงใกล้พ้นจุดวิกฤติ

ภาคเหนือเร่งฟื้นฟูความเสียหาย ชาวบ้านหวั่นพายุถล่มซ้ำ

หลายพื้นที่ทางภาคเหนือยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านต้องเตรียมตัวรับกับพายุลูกใหม่ หลายคนยังไม่กล้ากลับไปอาศัยในบ้าน เพื่อรอจนกว่าพายุลูกนี้จะผ่านพ้นไปก่อน