ร้อง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สอบปมแสนสิริซื้อที่ดิน

รัฐสภา 7 ส.ค.  – “เรืองไกร” ร้อง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา สอบซื้อที่ดินแสนสิริ “เศรษฐา” เอี่ยวหรือไม่ ชี้อาจส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ ปมซื่อสัตย์สุจริต ย้ำถ้าได้นายกฯ เล็งสอบคุณสมบัติต่อ


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐและอดีตสมาชิกวุฒิสภา มายื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้ตรวจสอบกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่จะถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉปมการซื้อขายที่ดินแห่งหนึ่ง และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลี่ยงภาษี จนอาจไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการฯ ในฝั่งของสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่เกิดขึ้น จึงนำเรื่องมาให้ทางวุฒิสภาตรวจสอบรอบด้าน ทั้งผู้ร้อง ผู้กล่าวอ้าง คนแก้ต่าง บริษัทแสนสิริ หรือฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เพราะทั้งหมดยังไม่มีข้อยุติ จึงต้องมาให้กรรมาธิการสอบหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานหลัก โดยการขอเอกสารจากนายชูวิทย์ ขอเอกสารจากบริษัทแสนสิริ เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินทั้งหมด ตั้งแต่สัญญาจะซื้อจะขาย รูปเล่มการลงบัญชี การจ่ายแคชเชียร์เช็ค การจ่ายค่ามัดจำสัญญา ค่าธรรมเนียม รวมไปถึงเชิญเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่รับจดนิติกรรมต่าง ๆ เจ้าหน้าที่สรรพากร เพื่อให้ข้อมูลว่าเป็นการวางแผนภาษี หรือหลบเลี่ยงภาษี หรือหนีภาษีหรือไม่ ส่วนที่นายเศรษฐา ชี้แจงว่าซื้อถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล ต้องฟังความทั้งหมด จึงคิดว่า 10 กว่าวันที่ยังมีเวลา ควรให้กรรมาธิการได้ดำเนินการ


ด้านนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และรองคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องแทน กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการให้พิจารณา โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาการทำหน้าที่ของวุฒิสภาในการโหวตเลือกนายกฯ อีกครั้ง กรรมาธิการจะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการชุดอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป สว.มีหน้าที่โดยตรงในการร่วมเลือกนายกฯ

เมื่อถามว่า อีก 10 กว่าวันที่จะเลือกนายกฯ กรรมาธิการจะพิจารณาทันหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า เงื่อนเวลาเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุดโดยเร็ว โดยจะมีการทำหนังสือคู่ขนานไปยังภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเชิญบุคคลมาชี้แจงโดยเร็ว

ส่วนขอบเขตการแสวงหาข้อเท็จจริงจากภาคเอกชน นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ต้องขอข้อเท็จจริงจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย และเป็นประโยชน์กับเขาเอง ควรจะต้องให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน แต่ไม่มีกฎหมายเชิงบังคับว่าให้ทำ แต่นี่คือผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ถูกกล่าวหา สว.ที่จะมีข้อมูลในการพิจารณา และเป็นผลประโยชน์ต่อประชาชนในกระบวนการคัดเลือกนายกฯ ที่มีความสมบูรณ์


ส่วนที่เบื้องต้นบริษัทแสนสิริ ชี้แจงว่า นายเศรษฐา อาจไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดิน เพราะเป็นเพียงผู้ลงนาม พอจะรับฟังได้หรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงทุกฝ่ายรับฟังได้อยู่แล้ว แต่เราอยากฟังความเห็นจากทุกฝ่ายให้ครบถ้วน ซึ่งดีกว่าการไม่รับฟัง การที่นายเรืองไกร นำข้อมูล ข้อเท็จจริง และเสนอแนะให้ติดตามขอข้อมูลจากหน่วยงาน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ และเชื่อว่าจะเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่สุด

นายเรืองไกร ยังตั้งข้อสังเกตกรณีสัญญาซื้อขายที่ดิน 12 ฉบับ ว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากผู้ขายทั้ง 12 คน ลงเหมือนกันว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ทราบขอบเขตที่ดินและเนื้อที่มีเพียงใด ซึ่งเอกชนทั้ง 12 ราย ที่รับที่ดินมาปี 61 แล้วขายในปี 62 โดยการได้มาไม่เกิน 5 ปี จะต้องมีการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เสียภาษีเงินได้เป็นรายบุคคล เมื่อเสียภาษีเงินได้ ค่าธรรมเนียมร้อยละ 2 และภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะไม่เสียอากรแสตมป์ ดังนั้น สิ่งที่กรรมาธิการควรจะได้รับจากบริษัทแสนสิริ คือ รายงานการประชุมของบริษัทที่จัดทำโดยคณะกรรมการตรวจสอบประจำปี 62 ที่ระบุชัดเจนถึงการดำเนินงานของบริษัท และโดยเฉพาะข้อ 6 การกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งบริษัทเข้าเป็นแนวร่วมการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (CAC)

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในปี 62 ที่นายเศรษฐาอาจไม่ได้รับรู้เรื่องการทำธุรกรรม แต่เมื่อดูจากงบการเงินปี 62 ระบุไว้อย่างชัดเจน นายเศรษฐาถือหุ้นร้อยละ 4.66 ซึ่งสอดรับกับรายงานการประชุมที่บอกว่า ทำไมต้องมอบและแบ่งเป็น 12 ครั้ง ซึ่งจะต้องชี้แจง หากเห็นว่าถูกต้องตามหลักกฎหมายและธรรมาภิบาล ตามที่แสนสิริชี้แจง นอกจากนี้ยังเห็นว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินรอการพัฒนา มูลค่าที่ดิน 1,600 ล้านบาท เป็นที่ดินที่เพิ่มขึ้นจากปี 61 อย่างมีนัยสำคัญ เพราะในหมายเหตุของงบการเงิน ที่ดินรอการพัฒนาน่าจะอยู่ในรายการนี้ปี 61 มี 13,000 กว่าล้านบาท ส่วนปี 62 มี 18,000 ล้านบาท เพิ่มมา 5,000 ล้านบาท จึงเป็นเหตุผลที่ต้องให้กรรมาธิการเรียกเอกสารทางบัญชี ซึ่งจะได้รับคำตอบว่า ผู้รับเงินทั้ง 12 ราย รับเงินไปแล้วเป็นแคชเชียร์เช็คส่วนหนึ่ง หรือรับเงินสุทธิหรือไม่ รวมถึงภาษีค่าธรรมเนียบร้อยละ 3 ซึ่งต้องดูว่ามีการจ่ายภาษีอีกทอดหนึ่งหรือไม่ รวมถึงมูลค่าที่ดินรอการพัฒนา ทางบริษัทแสนสิริบันทึกราคาที่ดินบวกค่าธรรมเนียมภาษีหรือไม่ ถ้าค่าธรรมเนียมรวมลงได้ แต่ถ้าภาษีเงินได้ธุรกิจเฉพาะออกให้ ต้องถือเป็นเงินได้พึงประเมินหรือไม่ สรรพากรต้องตอบ

“คนที่จะเป็นนายกฯ จะต้องชี้แจงเรื่องเหล่านี้ ว่าตอนที่เป็นผู้บริหารปี 62 เรื่องที่ถูกกล่าวหาเหล่านี้ชี้แจงอย่างไร ซึ่งข้อมูลคงได้แค่เบื้องต้นในการวินิจฉัย แต่สมมติว่าคุณเศรษฐาได้เป็นนายกฯ มาตรา 160 จะถูกหยิบขึ้นมาว่า รัฐมนตรีเคยมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ถ้านายเศรษฐาได้เป็นนายกฯ ตนจะช่วยเข้ามาตรวจสอบ และมีความจำเป็นต้องดูว่า นายกฯ ก่อนที่จะเข้ามามีสถานะมีเหตุหรือไม่อย่างไร จะไม่สามารถไปยืนยันข้อเท็จจริงว่า นายเศรษฐาขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามเลยคงไม่ใช่ ไม่งั้นจะเป็นการชี้นำสมาชิกรัฐสภามากเกินไป” นายเรืองไกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่