นราธิวาส 5 ส.ค.-จับตาสามีภรรยา เจ้าของโกดังพลุมูโนะเข้ามอบตัวหลังหลบหนีเข้ารัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำคดีนี้เจ้าหน้าที่รัฐต้องรับผิดชอบ ถูกดำเนินคดีตาม ม.157
เหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่ชุมชนตลาดมูโนะ จ.นราธิวาส คร่าชีวิตชาวบ้าน 12 ศพ ไร้ที่อยู่กว่า 680 หลังคาเรือน ล่าสุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าผู้ต้องหาสามีภรรยาติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว หลังจากหลบหนีไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยจะเข้ามอบตัวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสในช่วงบ่ายวันนี้
คดีนี้ไม่มีความสลับซับซ้อน ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีนักการเมืองหรือกลุ่มคนมีสีอยู่เบื้องหลัง เพียงแต่โกดังดังกล่าวได้มีการขออนุญาตประกอบกิจการโดยไม่ถูกต้อง คือ ไม่ได้ระบุประเภทของกิจการในใบอนุญาต ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกใบอนุญาตและบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 อย่างแน่นอน แต่จะมีกี่คนนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยเบื้องต้นมีหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด 5 หน่วยงานมประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าผู้ประกอบการมีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งพบเส้นทางดังกล่าวแล้ว เช่นเดียวกับเส้นทางการเงินของ อสม.ด้วย
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่าขณะนี้ยอดบริจาคที่ประชาชนให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 20 ล้านบาท ขั้นตอนการเบิกจ่ายต้องผ่านคณะกรรมการต่างๆ ตั้งแต่ระดับอำเภอมาถึงระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาการใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ในเบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีความเร่งด่วนที่ต้องเบิกเงินส่วนนี้ไปใช้จ่าย เนื่องจากในพื้นที่เองมีหน่วยงานภาครัฐ ประชาชน ภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งปูน ไม้ กระเบื้อง และเจ้าหน้าที่ทหารช่าง ซึ่งยังมีความเพียงพอ ประกอบกับมีการอนุมัติเงินตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ช่วยเหลือในเบื้องต้นบ้างแล้ว ทั้งกรณีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย บ้านพัง 100 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือ 30 เปอร์เซนต์.-สำนักข่าวไทย