fbpx

ธปท.จี้ทุกภาคส่วนเปลี่ยนเกมธุรกิจสู่ ESG รับมือกีดกันทางการค้า

กรุงเทพ 25 ก.ค.-ธปท.จี้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังเปลี่ยนเกมธุรกิจสู่ ESG รับมือกีดกันทางการค้า ทางด้านโออาร์ พร้อมเปิดตัวซูเปอร์แอปพลิเคชั่น Xplore เชื่อมโยงชุมชนเข้าสู่ออนไลน์ ส่วน EXIM Bank เรียกร้องสถาบันการเงินผนึกกำลังหนุนเอสเอ็มอีปรับตัวสู่ ESG และบางจากฯ ลุยก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF ปริมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน ใน 2 ปี ตอบโจทย์ลดโลกร้อน พร้อมนำเทคโนโลยีบล็อกเชนพัฒนา “Book and Claim” รองรับซื้อขายSAF เคลมคาร์บอนเครดิต คาดเสร็จภายใน 1-2 ปีนี้ 


นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “ESG Game Changer” จัดโดย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วันนี้เรารอไม่ได้ในเรื่องของโลกที่รวนขึ้นทุกวัน โดยเราอยู่ในจุดที่ต้องตั้งคำถามถึงความสำคัญของการทำธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเราเห็นภัยพิบัติที่หนักหน่วงมากขึ้น ทั้งอากาศที่ร้อนนานขึ้น แล้งนานขึ้น ฝนตกหนักขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศไทยอยู่อันดับท้าย ๆ ของการจัดอันดับขีดความสามารถในการรับมือภัยพิบัติ โดยอยู่อันดับที่39 จากการจัดอันดับทั้งหมด 48 ประเทศ ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการอะไร ภายในปี 2050 เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบถึง 43% ของ GDP

นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันเรื่องมาตรการต่าง ๆ จากต่างประเทศ ตลอดจนวิธีปฏิบัติของบริษัทต่างชาติว่าด้วยการจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ประเทศไทยจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือ โดยสหภาพยุโรปจะเก็บภาษีคาร์บอนสินค้าข้ามแดนเริ่ม 1 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทมากกว่า 1,000 บริษัท แล้วจะมีผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกถึง 18,000 ล้านบาท 


ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็เปลี่ยนการผลิตรถจากรถสันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการผลิตชิ้นส่วนกว่า 30,000 ชิ้น จะเหลือแค่ไม่ถึง 3,000 ชิ้น แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย ดังนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยจะอยู่ในโลกใบเก่าไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ ภาคเกษตร ภาคการท่องเที่ยวก็ต้องปรับตัวอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคการเงิน ก็คงเป็นภาคหนึ่งที่ต้องสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจไทย โดย ธปท.ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มาโดยตลอด อย่างในด้านสังคมก็มีการดำเนินการในเรื่องคลินิกแก้หนี้ ด้านธรรมาภิบาลก็มีการออกเกณฑ์ของสถาบันการเงินให้ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม ล่าสุดก็มีแนวทางการแก้ไขหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนออกมา

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวในงานสัมนา ESG : Game Changer ว่า การทำ ESG ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น เพราะผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เห็นได้ชัดทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นความร้อนทะลุ 45 องศาเซลเซียสในฝั่งโลกตะวันตก ฝนตกหนักผิดปกติในฝั่งตะวันออก เป็นต้น อย่างไรก็ตามการทำ ESG นั้นมีความท้าทายหลายด้านทั้งปัจจัยภายในและภายนอก อย่าง การบริหารจัดการทั้งใน-นอกองค์กรการระบาดของโควิด-19 ฯลฯ สะท้อนจากที่ประชาคมโลกพยายามลดเป้าควบคุมการเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยลงตั้งแต่2 องศา เป็น 1.5 องศา จนปัจจุบันอยู่ที่ 1 องศา ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถบรรลุเป้าได้หรือไม่แต่แม้จะท้าทายก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำให้ได้ เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้เหมือนมนุษย์ที่เป็นไข้ อุณหภูมิเพิ่มจาก 37 องศาเซลเซียสเป็น 39 องศาเซลเซียสก็วิกฤติมากแล้ว 


สำหรับแนวทางของไทยเบฟนั้น ได้ตั้งเป้าหมายด้าน ESG เช่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 0 และคืนน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนให้ได้ 100% ภายในปี 2583 ขณะที่ 80% ของยอดขายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต้องมากจากเครื่องดื่มสุขภาพภายในปี 2573 รวมถึง 100% ของคู่ค้ากลุ่มกลยุทธ์ต้องจัดทำและบังคับใช้จรรญาบรรณสำหรับคู่ค้าของตนเอง ทั้งนี้เชื่อว่า ESG น่าจะสามารถผลักดันการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจไปพร้อมกับสร้างโลกที่น่าอยู่ได้แน่นอน

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ เปิดเผยระหว่างงานสัมมนา ESG Game Changer ในหัวข้อ สร้าง “ความยั่งยืน” ให้เป็นจริง ว่าต้องการอยากให้เห็นว่าโออาร์นั้น ได้ทำอะไรให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบางคนมองว่าเป็นผู้ค้าน้ำมัน และช่วงนี้ราคาน้ำมันขึ้นอาจจะไม่ค่อยรัก แต่ในมุมของ ESG ความยั่งยืนที่ปฏิบัติ ซึ่งก็ยังดำเนินการและยังไม่ได้หยุดไปนั้น ได้ส่งเสริมและสร้างการเติบโตให้กับสังคมอย่างมากมาย พร้อมกันนี้ OR ยังให้ความสำคัญกับ 4 พันธกิจ ได้แก่ SEAMLMESS MOBILITY การพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีและเชื่อมโยงที่ให้ไร้รอยต่อโดยต้องการให้เกิดการใกล้ชิด แม้ว่าพลังงานจะไปอยู่ที่ทางไหน ก็จะเชื่อมโยง เชื่อมต่อให้เข้ากับการให้บริการ ALL LIFESTYLES เราไม่ได้ทำธุรกิจขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่เรายังมีธุรกิจใหม่ด้วย และอีก 3 เดือนจะเห็นธุรกิจของเรา คือ เรื่องของความสวยความงามด้านสุขภาพ ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจเป้าหมายเพราะสังคมกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งมีมากขึ้น เรามองกลุ่มธุรกิจนี้และพร้อมจะให้โอกาสของผู้ค้าของเข้ามาอยู่

ด้าน GLOBAL MARKET เราประสบความสำเร็จในกลุ่มของธุรกิจซึ่งพร้อมที่จะขยายเพื่อหาโอกาสในการทำธุรกิจในต่างประเทศซึ่งมีอยู่มากกว่า 10 ประเทศ เช่น สปป.ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ และโอมาน เราเข้าไปอยู่ในทุก ๆแห่งโดยธุรกิจเราไม่หยุดที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น แต่เรามองหาโอกาสในต่างประเทศและพร้อมที่จะไขว่คว้า เพราะในประเทศไทยยังมีข้อจำกัด และผู้กำกับดูแล เราจะแสวงหาโอกาสที่ขยายธุรกิจออกไป

OR INNOVATION เรามีแนวคิดที่แตกต่าง การที่เราจะสร้างความแตกต่าง จากปัจจุบันเรามีสถานีบริการ เราจะพัฒนาไปอยู่ในออนไลน์ และจะเข้าไปในอยู่ออนไลน์ 50% โดยในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะเปิด application ชื่อว่าXplore ซึ่งจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่ application ของ OR แต่เป็นองกลุ่มของปตท. ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์มากมาย ธุรกิจ EV ยาที่เรากำลังพัฒนาอยู่ เราทำงานเป็นกลุ่มจะเป็น application ที่ใหญ่ที่สุดของ ปตท.  และแอปฯนี้จะเป็นซูเปอร์แอปฯ ของ ปตท.ที่มีความเข้มแข็งมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชั่นนี้จะมีประโยชน์กับชุมชนและสังคม ซึ่งจะเป็น marketplace รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในเครือข่ายของเรา และเราจะนำขึ้นมาอยู่บนแอปพลิเคชั่น คนก็จะมีโอกาสสามารถขายของบนแอปพลิเคชั่นของเราฟรี

สำหรับชุมชนและสังคมที่ดูแลอยู่สู่ความยั่งยืน SDG เป็นภาพใหญ่ของสหประชาชาติ แต่สิ่งที่เดินหน้า การให้โอกาสคนตัวเล็กเป็นสิ่งที่ทำอยู่ การให้โอกาสทุกรูปแบบเพื่อให้วิสาหกิจชุมชน สังคม เข้ามาอยู่ในเครือข่ายของ เพราะไม่สามารถทำธุรกิจได้คนเดียวและเมื่อเขาทำธุรกิจร่วมกัน ก็ต้องเข้าไปดูแลและไม่หยุดที่จะคิด และสร้างการเติบโตไปด้วยกัน นอกจากนี้ SDG และ ESG สร้างความเชื่อมโยงกันและสอดคล้องกันด้วย ทั้งนี้ ความคิดของโออาร์เองยังไม่ได้มองเรื่องของ green เป็นต้นทุน แต่มองเป็นเรื่องของการสนับสนุน เป็นเรื่องเอาพลังงาน หากนำกลับมาใช้ก็คือการบริหารต้นทุน การใส่เงินเข้าไปให้โอกาสการทำธุรกิจให้ความยั่งยืน ไม่เคยคิดว่าเป็นต้นทุน ซึ่งเป็นแนวคิดของการวางกลยุทธ์และโปรแกรมต่าง ๆ มากมายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง