21 ก.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง บุกคลินิกกลุ่มทุนจีนเถื่อน ใจกลางทองหล่อ ใช้แพทย์เป็นบุคคลต่างด้าว พบมีกว่า 15 สาขาทั่วโลก ตรวจยึดของกลาง 51 รายการ มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นคลินิกเถื่อนย่านทองหล่อ เปิดให้บริการรักษาลูกค้าต่างชาติ โดยใช้บุคลากรทางการแพทย์จากประเทศเพื่อนบ้านรักษา และมีสาขาทั่วโลกกว่า 15 สาขา ตรวจยึดของกลาง 51 รายการ มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 บก.ปคบ. ได้รับการประสานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ว่าได้รับเรื่องเรียน จากประชาชน สงสัยว่าสถานพยาบาลแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ รวมทั้งสงสัยว่ายาที่ใช้ในการรักษา จดทะเบียนตำรับยาหรือไม่ จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า คลินิกย่านทองหล่อมีการเปิดดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าคลินิกดังกล่าวมีบุคคลสัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัท และมีการเปิดสถานพยาบาลในหลายประเทศทั่วโลกกว่า 15 สาขา เช่น จีน, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, ออสเตรเลีย เป็นต้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าทำการตรวจค้นสถานพยาบาลดังกล่าว โดยขณะเข้าตรวจค้นพบว่าคลินิกดังกล่าวเปิดรักษาแก่ประชาชนทั่วไป และมีประชาชนเข้ารับบริการ มี Miss EI MON สัญชาติเมียนมา อ้างตนเป็นแพทย์ประจำคลินิก ทำการตรวจรักษาและฉีดวิตามินบำรุงผิวกับประชาชน โดย Miss EI MON รับว่าเป็นชาวเมียนมา จบการศึกษาทางด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยในประเทศเมียนมา เมื่อจบการศึกษาแล้วได้มีผู้ชักชวนให้มาทำงาน ณ สถานพยาบาลดังกล่าวในลักษณะพาร์ทไทม์ รับค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท โดยทำงานมาแล้วประมาณ 1 เดือน ซึ่งจากการตรวจสอบใบอนุญาตทำงาน พบว่าได้รับสิทธิอนุญาตให้ทำงานเพียงเป็นผู้จัดการทั่วไป แต่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของประเทศไทยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลาง 51 รายการ เป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา 23 รายการ, เครื่องมือแพทย์ 12 รายการ และเครื่องสำอาง 16 รายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดีกับ Miss EI MON ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิจะทำได้” โดย MISS EI MON ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาโดยศาลพิพากษา จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท จำรอ 6 เดือน โทษจำรอลงอาญา
ส่วนเจ้าของคลินิกดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจะได้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา, ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง, ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้ง และข้อหาตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของบุคคลต่างด้าว ต่อไป
ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก แจ้งว่าสำหรับสาขาในประเทศไทย เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับลูกค้าชาวต่างประเทศ และลูกค้าที่มาจากสาขาต่างประเทศ ไม่รับลูกค้าที่เป็นคนไทย โดยคลินิกแห่งนี้ได้เปิดดำเนินการมาแล้วประมาณ 9 เดือน
จากการตรวจสอบการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ของสถานพยาบาลดังกล่าว พบว่ามีการใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ชื่อดังที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกรณีแพทย์ที่ทำการรักษา 1.พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2560 ฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิจะทำได้” ระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกผลักดันส่งกลับประเทศ
กรณีกรรมการ บริษัท มีความผิดฐาน
- พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐาน” ขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ “ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง” ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
- พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2560 ฐาน “รับคนต่างด้าวที่ไม่ไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากมีสิทธิที่จะทำได้”ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์และขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการรักษาโรค หรือเสริมความงามเนื่องจากเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง ควรตรวจสอบคลินิกและแพทย์ที่ทำการรักษาว่าได้รับอนุฐาตถูกต้องหรือไม่ และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
“ผู้ต้องหาหรือจําเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคําพิพากษาถึงที่สุด”. -สำนักข่าวไทย