29 มิ.ย.นี้ กทม.นัดถกความปลอดภัยในการก่อสร้าง

กทม.20 มิ.ย.-รองผู้ว่าฯกทม.เผย 29 มิ.ย.นี้ กทม.นัดถกมาตรฐานความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.วานนี้ (19มิ.ย.) ได้หารือถึงมาตรฐานความปลอดภัยของการก่อสร้างต่างๆในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากขณะนี้มีการก่อสร้างจำนวนมาก  ทั้งการก่อสร้างอาคารและการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมามีอุบัติเหตุจากการก่อสร้างส่งผลให้ประชาชนได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินหลายครั้ง ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัย กทม.จึงกำหนดจัดการประชุมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง ในวันที่ 29 มิ.ย.โดยมีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ หน่วยงานในสังกัด กทม.วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในบรมราชูปถัมภ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร ตลอดจนเจ้าของโครงการและผู้รับจ้างก่อสร้าง 


ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นการก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างค่อนข้างนานประมาณ 3 – 5 ปี ที่ผ่านมาการก่อสร้างมีปัญหาน้อยมากแต่ปัจจุบันมีปัญหาเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายโครงการ ซึ่งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่มีเกิดปัญหาเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีเขียว สำหรับการก่อสร้างที่มีระยะเวลา 3 ปีขึ้นไปย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ซึ่งในการประชุมในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ จะหารือเกี่ยวกับกฎ กติกา มารยาท ในการก่อสร้าง รวมถึงปัญหาการจัดจราจรระหว่างก่อสร้างและหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับที่ผ่านมา กทม.มีปัญหามาตลอดเรื่องผู้ก่อสร้างตัดระบบท่อระบายน้ำ ถมคูคลองปิดทางระบายน้ำ ทำผิวจราจรเสียหายและการทิ้งขยะอุดตันท่อระบายน้ำ ซึ่งต้องมีการหารือว่าจะแก้ไขอย่างไร ต้องมีแผนงานที่ชัดเจนในการดำเนินการและร่วมมือกันแก้ปัญหา อีกทั้งหารือในเรื่องต่างๆ เช่น การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง มาตรฐานขั้นต่ำของความปลอดภัยเมื่อมีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างมาแล้วหากโครงการไหนมีปัญหาไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดอาจต้องหยุดการก่อสร้างก่อน เมื่อมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานแล้วจึงให้ดำเนินการก่อสร้างต่อ


น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษก กทม.กล่าวว่า จากที่ผ่านมามีเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงในประเทศอังกฤษทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.มีความห่วงใยและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงเน้นย้ำในที่ประชุมคณะผู้บริหาร โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษและเพื่อป้องกันอุบัติภัยในลักษณะดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ลงนาม ว.8 สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตตรวจสอบอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ และอาคารที่มีการชุมนุมคนเป็นจำนวนมาก  ว่ามีระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัยตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือไม่ หากพบว่าไม่มีหรืออยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน ให้สำนักงานเขตออกคำสั่งกับเจ้าของอาคารตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ต่อไป เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส