กทม. 1 พ.ย.-กลุ่มนักวิชาการพร้อมชาวบ้านผุดโครงการ “ลูกชาวนาขายข้าว” หลังราคาข้าวตกต่ำในรอบหลายสิบปี เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน
นายอัครเดช สุพรรณฝ่าย อาจารย์ประจำวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ คณะวิทยาจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์จัดทำโครงการ “ลูกชาวนาขายข้าว” หลังราคาข้าวตกต่ำ ในรอบหลายสิบปี เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จากการพูดคุยกันในกลุ่มนักวิชาการพร้อมชาวบ้าน มองเห็นตรงกันว่าแม้ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ แต่การซื้อข้าวสารเพื่อการบริโภคของผู้คนโดยทั่วไป ก็ยังแพงพอสมควร จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะนำไปสู่การปฏิรูปธุรกิจข้าวโดยชาวนา กล่าวคือชาวนา จะสีข้าวเปลือกและขายข้าวสารด้วยตัวเองถึงมือผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ทุกชุมชนสามารถทำได้ แต่ชาวนาต้องปฎิรูประบบการสตอกสินค้าเพื่อชะลอข้าวเปลือกออกสู่ตลาด ซึ่งหากชุมชนทุกชุมชนมีการเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนเองจะเป็นปริมาณการสตอกสินค้าจำนวนมาก รอราคาที่จะปรับตัวสูงขึ้น ค่อยนำออกมาสู่ตลาดในภายหน้า
การปฏิรูปเรื่องการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ และการปฏิรูป ด้านการตลาด โดยเกษตรกรสามารถที่จะทำการตลาดขายข้าวได้ด้วยตนเอง หรือ ให้ลูกหลานที่เป็นนิสิต นักศึกษา ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะมีการใช้ทุกโอกาสและหลากหลายสถานที่ในการทำการตลาดนำสินค้าจากชาวนาถึงผู้บริโภคโดยตรง ทั้งการขายออนไลน์โดยใช้ลูกหลานที่เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ในโครงการ “ลูกชาวนาขายข้าว” หรือจะเป็นการวางจำหน่ายหน้าบ้าน ข้างถนนในทุกชุมชน ซึ่งจะสามารถขายข้าวสารได้ในกิโลกรัมละ 35-40 บาท เชื่อว่าวิธีการนี้จะเป็นการปฏิรูประบบธุรกิจข้าวด้วยชาวนาเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนในอนาคต สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะนำประเทศไทยสู่ยุคนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Thailand 4.0 และเป็นทางแก้ไขปัญหาการที่ถูกกลุ่มโรงสีและนายทุนขูดรีดกดราคาข้าวเปลือกให้ตกต่ำลงมา โดยไม่ต้องไปพึ่งพาโรงสีนายทุน.-สำนักข่าวไทย