ศาลฎีกา16 มิ.ย.- “ยิ่งลักษณ์” ระบุ “ทักษิณ” ไม่สนับสนุนใช้ความรุนแรง วอนอย่าไปโยงเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนให้เสร็จก่อน ปัดตอบคำถาม 4 ข้อ ไม่อยากชี้นำ
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ พบมี นาฬิการูปนายทักษิณภายในบ้านว่า นายทักษิณ ชินวัตร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ต้องมีคนรู้จัก รัก ชอบ เป็นธรรมดา แต่นายทักษิณ ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง กรุณาอย่าเพิ่งเชื่อมโยง
“ขอให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและพิสูจน์หลักฐานให้สิ้นสุดก่อน เชื่อว่าท่านเองไม่เคยสนับสนุนการใช้ความรุนแรง และทางพรรคเพื่อไทยก็ได้ประนามผู้กระทำการดังกล่าวไปแล้ว” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตอบคำถาม 4 ข้อ ของนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่อยากชี้นำ เชื่อว่าประชาชนคงเข้าไปใช้สิทธิ์ในการตอบคำถาม อยากให้ความเห็นเป็นกว้าง ๆ ว่า 4 คำถามนี้ เหมือนจะชี้นำบ้าง แต่ก็อยากให้พี่น้องประชาชนให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ เพื่อให้เราได้หาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เจตนารมย์ของผู้ร่างบอกว่าเป็นฉบับปราบโกง เชื่อว่าถ้ากลไกลของรัฐธรรมนูญทำงานได้สมบูรณ์ เราก็จะมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล เราต้องช่วยกันแก้ปัญหา และขอให้กลไกเดินไปตามปกติ
เมื่อถามย้ำว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะไปแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของประชาชนดีกว่า เพราะเกรงจะเป็นการชี้นำ และคงไม่ตอบในแฟนเพจยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเห็นว่าเค้าก็ไม่อยากให้เพจพูดเรื่องการเมืองอยู่แล้ว
ส่วนกรณีการกดไลค์แฟนเพจ “น.ส.ยิ่งลักษณ์” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณแฟนเพจ รวมถึงพี่น้องประชาชน ที่เข้ามาติดตาม เราเปิดเพจมาประมาณ 7 ปี เป็นความรักความผูกพันธ์ ที่มีต่อแฟนเพจและประชาชนชาวไทย ลองเปิดดูก็จะเห็นว่าทุกคนเข้ามาพูดกันด้วยความรักความผูกพัน ส่วนที่มีการจับกุมขบวนการกดไลค์ แล้วนำมาเชื่อมโยงกับแฟนเพจนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่ามองแฟนเพจยิ่งลักษณ์เลย เดี๋ยวใครได้ยินก็จะเสียใจแย่
ต่อข้อถามว่า สนช. ผ่านร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ควรเปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นว่า การให้ทุกคนมีส่วนร่วมถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะเปิดพื้นที่กว้าง ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ส่วนการปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้นั้นขึ้นอยู่กับ คสช. ที่จะเป็นผู้พิจารณา ในส่วนของพรรคการเมืองก็คงมีความต้องการ อยากให้ฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองโดยตรงดีกว่า
สำหรับการที่รัฐบาลออกมาตรา 44 เพื่อดำเนินการเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้น อดีตนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียด แต่อยากให้เร่งรัดพัฒนาในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ก็เป็นสิ่งจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น การใช้มาตรา 44 เป็นการเร่งด่วนเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากให้มีกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ .-สำนักข่าวไทย