ซิดนีย์ 2 พ.ย.- สำนักงานความปลอดภัยการคมนาคมออสเตรเลียเผยรายงานฉบับใหม่ในวันนี้ว่า เครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 ที่หายไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 น่าจะเสียการควบคุมขณะดิ่งลงมหาสมุทร และปีกเครื่องบินไม่อยู่ในตำแหน่งเตรียมลงจอด
รายงานระบุว่า ข้อมูลการสื่อสารดาวเทียมช่วงสุดท้ายของเครื่องบินสอดคล้องกับการที่เครื่องบินบินอยู่ในระดับสูงและดิ่งลงมาอย่างรวดเร็วก่อนขาดการติดต่อไป ผลวิเคราะห์บานพับปีกข้างขวาของเครื่องบินที่พบนอกชายฝั่งแทนซาเนียชี้ว่า บานพับอยู่ในตำแหน่งหดเข้าไปในช่วงที่หลุดจากปีก บ่งชี้ว่าเครื่องบินไม่อยู่ในตำแหน่งเตรียมลงจอดก่อนตกลงไปในมหาสมุทร และว่าพื้นที่การค้นหาในขณะนี้ครอบคลุมสมมติฐานทั้งหมดจากการจำลองเหตุการณ์ในกรณีที่เครื่องบินเสียการควบคุม
นายดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีคมนาคมออสเตรเลียแถลงขณะผู้เชี่ยวชาญเริ่มการประชุม 3 วันที่กรุงแคนเบอร์ราเพื่อกำหนดแผนการค้นหาในขั้นตอนสุดท้ายว่า ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดและผลการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้มีซากที่คณะสอบสวนให้ความสนใจอยู่กว่า 20 ชิ้น และมีซาก 3 ชิ้นที่ยืนยันว่าเป็นของเครื่องบินโบอิง777 ที่หายไป
เที่ยวบิน MH370 ทะยานขึ้นจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งของจีนพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน แต่ได้ขาดการติดต่อและสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนถึงขณะนี้ รัฐบาลออสเตรเลีย มาเลเซีย และจีนตกลงจะยุติปฏิบัติการค้นหาทันทีที่เสร็จสิ้นการค้นหาอย่างละเอียดครบพื้นที่เป้าหมายในมหาสมุทรอินเดีย 120,000 ตารางกิโลเมตรและไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม ปัจจุบันการค้นหากินพื้นที่ไปกว่า 110,000 ตารางกิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปีหน้า.- สำนักข่าวไทย