มีหนี้นอก บอก ธ.ก.ส. ก้าวพ้นกับดักหนี้อย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- มีหนี้นอก บอก ธ.ก.ส. เพื่อลดปัญหาหนี้นอกระบบก้าวพ้นกับดักหนี้อย่างยั่งยืน


นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนและหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของ ธ.ก.ส. ได้เปิดจุดให้คำปรึกษาที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าแก้ไขและป้องกันหนี้นอกระบบในครัวเรือนของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้การดำเนินงานมีความสะดวก รวดเร็ว และผู้ที่มีปัญหาหนี้สามารถเข้าถึง ธ.ก.ส. ได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่ต้องเดินทางไปสาขา สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทางออนไลน์ในโครงการ “มีหนี้นอกบอก ธ.ก.ส.” เพียงลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน www.baac.or.th และ Line Official Account: BAAC Family ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พร้อมกรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น ภาระหนี้สิน และช่องทางติดต่อกลับในระบบ

สำหรับเงื่อนไข ผู้ที่ลงทะเบียนต้องเป็นเกษตรกรหรือบุคคลในครัวเรือน โดยหนี้ที่มีต้องเป็นหนี้สินที่เจ้าหนี้ไม่ใช่สถาบันการเงิน และเป็นผู้ที่สามารถสร้างหรือมีรายได้เพียงพอต่อการชำระหนี้ กรณีผู้ขอกู้อายุมากกว่า 60 ปี ต้องมีทายาทหรือบุคคลในครัวเรือนอย่างน้อย 1 คน เป็นลูกหนี้ร่วม และหลังจากลงทะเบียนแล้วธนาคารจะติดต่อกลับตามช่องทางการติดต่อที่ได้ให้ไว้ เพื่อนัดหมายวันเวลาในการเข้าพบพูดคุยและให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมถึงการเตรียมวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใต้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินเดิม หรือใช้ลงทุนเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ เป็นต้น เช่น สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน เพื่อสงวนรักษาที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก หรือใช้ที่ดินเป็นประกันหนี้ วงเงินสูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี หากชำระหนี้ดีอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี อัตราดอกเบี้ยจะลดเหลือ ร้อยละ 4 ร้อยละ 3 และร้อยละ 2 ต่อปี ตามลำดับ ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 20 ปี และสินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินภายนอก วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท กรณีสงวนรักษาที่ดินวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 12 ปี เป็นต้น


ทั้งนี้ ธ.ก.ส. มุ่งมั่นในการเข้าไปสนับสนุน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ให้เกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน ควบคู่กับการเสริมสร้างอาชีพและรายได้ เพื่อให้หลุดพ้นกับดักหนี้นอกระบบได้อย่างยั่งยืน โดยในช่วงที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เกษตรกรลูกค้าและบุคคลในครัวเรือนให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบของ ธ.ก.ส. ไปแล้วกว่า 710,123 ราย เป็นเงินกว่า 59,759.77 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่า จะได้รับการตอบรับด้วยดีจากผู้ที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศและ Call Center 02 555 0555 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง