กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยนำคณะรัฐและเอกชนรายใหญ่เยือนซาอุฯอีกครั้งหนึ่ง หวังเดินหน้าสานต่อโครางการขนาดใหญ่ทั้งธุรกิจเปิดบริการปั๊มน้ำมันไปจนถึงธุรกิจอาหารที่ทางซาอุฯสนใจเชิญนักลงทุนไทยกลับไปเจรจาอีกครั้ง
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนไทย นำโดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนภาครัฐเยือนซาอุดิอาระเบีย อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายน 2566 เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบียต่อเนื่องโดยเฉพาะบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) อยู่ระหว่างการพิจารณาตั้งสถานีบริหารน้ำมันในซาอุฯ เนื่องจากสถานบริการน้ำมันในปัจจุบันยังขาดความสะดวกอีกหลายอย่าง
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจซาอุฯ จึงได้เชิญชวนให้ ปตท.มาเปิดสถานบริการน้ำมันพร้อมกับพื้นที่ค้าขาย ห้องน้ำที่เหมาะสมต่อการใช้งานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่นเดียวกับรูปแบบในไทย นอกจากนี้ ปตท. ยังอยู่ในระหว่างหารือการร่วมลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่าง green hydrogen ในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางในการเป็น supply ให้อุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งปัจจุบันสำเร็จเฟส 1 ไปแล้ว และจะเริ่มเฟส 2 ในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (SCG) คาดว่าจะเปิด สำนักงานที่ซาอุฯ ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ และสนใจลงทุนในกลุ่มธุรกิจและพัฒนา Construction ecosystem เพื่อขยายไปสู่ supply chain ในด้านอื่นๆในซาอุฯ เช่นธุรกิจ packaging และ pvc เป็นต้น
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) CPF มีความสนใจและเห็นโอกาสในการทำธุรกิจเกี่ยวการพัฒนาaquaculture และไก่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับ Neom food company บริษัทในธุรกิจอาหารเพื่อลงทุนร่วมกันในอนาคต และในด้านสุขภาพ ผู้ประกอบการไทยอย่าง บริษัท เฮลท์ แอนด์ เวลเนส เมเนจเมนท์ คอนซัลแทนท์ จำกัด ได้ร่วมกับ Quality of Life Tourism Company ของซาอุฯ ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับ health & wellness center 3 โครงการ ทั้งในซาอุฯและไทย โดยมูลค่าการลงทุนรวมมากถึง 17,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2565 สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย กับ ซาอุดิอาระเบีย ได้มีการลงนาม MOU ความร่วมมือและจัดการแข่งขัน friendly match ระหว่างกันครั้งแรก ณ พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อเดือนเม.ย ที่ผ่านมา และมีกำหนดจัดการแข่งครั้งที่ 2 ระหว่างกันในเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ ณ เมืองริยาด ซึ่งนอกจากเป็นการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การพัฒนาธุรกิจเกมส์ในไทย ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังมีแผนหารือกับบริษัท Savvy ของซาอุฯ เพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจเกมส์ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
สำหรับภาคการเกษตรโดยเฉพาะการนำเข้าปุ๋ยของไทยจากซาอุฯ ที่ผ่านมา Saudi Basic Industries Corporation (SABIC) บริษัทผลิตเคมีภัณฑ์และเหล็ก รายใหญ่ซาอุฯ มี market share ของธุรกิจปุ๋ยในไทยมากถึง 45% และเป็นลำดับต้น ๆ ด้วยนั้น ยังแสดงความสนใจที่จะร่วมมือและขยายการลงทุนกับไทยในธุรกิจอื่นเพิ่มเติม เช่นAutomotive, Chemical, Electronic และ Healthcare โดยที่ผ่านมาบริษัท SABIC มองว่าประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่ดี ซึ่งในช่วงปัญาหาสงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อปีที่บริษัทยังคงส่งปุ๋ยให้ไทยอย่างต่อเนื่อง
ในด้านการท่องเที่ยว มีการตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวซาอุฯ ที่จะเดินทางมาไทยในปี 2566 ถึง 200,000 คน โดยมีการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย/คน/ทริป ประมาณ 80,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง ทั้งนี้ ซาอุฯ ยังมีแผนเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางริยาด -ภูเก็ต ตลอดจนการเตรียมเปิดสายการบิน Riyadh Air โดยมีฝูงบินมากถึง200 ลำ จากการขยายตัวภาคการท่องเที่ยวในข่วงที่ผ่านมา
สำหรับหนึ่งในโปรเจคใหญ่ของซาอุฯ อย่างโครงการปลูกต้นไม้ 10,000 ล้านต้น ตามเป้าหมายของ Vision 2030 โดยมีแผนที่จะนำเข้าต้นไม้จากทั่วโลกนั้น ปัจจุบันไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้เริ่มส่งต้นไม้ไปยังซาอุแล้ว กว่า200,000 ต้น โดยต้นไม้ส่วนใหญ่มาจาก จ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี และถือว่ามีโอกาสให้ไทยในการส่งออกต้นไม้ไปยังซาอุฯ อีกมาก
นอกจากนี้ ฝ่ายซาอุฯ มีความยินดีที่จะให้ใช้ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการของซาอุฯ หาก Startup สองประเทศตกลงที่จะร่วมกันเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกัน และถ้าผู้ประกอบการ 2 ฝ่ายเกิดการร่วมทุนกันต่อเนื่อง หน่วยงานดังกล่าวพร้อมให้การสนับสนุน venture capital ให้อีกด้วย ดังนั้น ในการเดินทางมาในครั้งนี้ รัฐบาลทั้งสองฝ่ายยังได้หยิบยกประเด็นการสนับสนุนการอีเว้นท์ระดับนานาชาติมาหารือกัน โดยซาอุฯ เสนอให้ไทยช่วยสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Saudi Expo 2030 ขณะที่ไทยเองก็ขอให้ซาอุฯ สนับสนุนการเสนอตัวชิงเจ้าภาพจัดงาน Phuket Expo 2028 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย