กทม. 2 มิ.ย.-“ศรีสุวรรณ” แอบยื่นหลักฐาน “พิธา” ผิดถือหุ้นไอทีวี แนะ กกต.ไม่ต้องรีบวินิจฉัย
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ ( 1 มิ.ย.) ได้ไปยื่นพยานหลักฐานหลายชิ้นเกี่ยวกับการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จำนวน 42,000 หุ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.98 (3) ให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น
สืบเนื่องจากสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้รายงานสอดคล้องกัน ว่านายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล และเป็นผู้ที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ว่าเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น น่าจะขาดคุณสมบัติผู้รับสมัครเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ม.98(3) ที่บัญญัติว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ”
ต่อมานายพิธา ได้ออกมายอมรับว่า หุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของตนแต่เป็นของกองมรดก นายพิธามีฐานะผู้จัดการมรดกเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามบริษัทไอทีวียังมีการประชุมผู้ถือหุ้นและมีการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร ว่ายังดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทและมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ จะอ้างว่าหยุดประกอบกิจการไปแล้วมิได้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมามอบให้ กกต. ให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาวินิจฉัยอย่างรอบคอบ เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา ว่าขาดคุณสมบัติการเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ม.98(3) ประกอบ ม.42(3) ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่อย่างไร
นายศรีสุวรรณ ระบุด้วยว่า กกต.ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบวินิจฉัยก็ได้ ปล่อยให้คนบางพวกอกแตกตายไปก่อนก็ยังได้ แต่ควรจะพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานผู้เชี่ยวชาญ ให้รอบด้านรัดกุม ก่อนที่จะวินิจฉัย และถ้าจำต้องรับรองความเป็น ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไปก่อนก็ยังได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องวินิจฉัย ก็ต้องนำเรื่องของสมาชิกภาพของความเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.101(6) ประกอบ ม.98(3) ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยในขั้นสุดท้ายต่อไปด้วย
“ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะท้ายที่สุดประเทศไทยของเรามีพระสยามเทวาธิราชคอยปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองอยู่ จึงเชื่อว่าใครคิดดีต่อบ้านต่อเมืองก็จะได้รับการคุ้มครอง แต่ถ้าใครคิดร้ายคิดทำร้านทำลายบ้านเมือง ก็จะมีอันเป็นไปในที่สุด” นายศรีสุวรรณ ระบุ .- สำนักข่าวไทย