เชียงใหม่ 2 พ.ย.-พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาต่อพสกนิกรในผืนแผ่นดินไทย โดยไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา รวมไปถึงชาวปะหล่อง หรือดาราอั้ง บ้านนอแล บนดอยอ่างขาง ที่หนีภัยการสู้รบเข้ามาขออยู่อาศัยในผืนแผ่นดินไทยเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ซึ่งพระองค์ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้พวกเขาอยู่ที่นั่นได้ จนกลายเป็นหมู่บ้านที่เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณมาถึงทุกวันนี้
สุดเขตประเทศไทย จากชายแดนไทย-เมียนมาร์ ที่บ้านนอแล ชุมชนของชาวปะหล่อง หรือดาราอั้ง บนดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่เริ่มมาตั้งรกรากจาก 8 ครอบครัว จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พ่อเฒ่า นาโม หมั่นเฮิง ผู้นำชาวดาราอั้ง ในวัยเกือบ 90 ปี ย้อนความหลังไปเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ที่หอบลูกหลานหนีภัยจากการสู้รบและการถูกบังคับให้ไปเป็นลูกหาบ จากฝั่งเมียนมาร์ ใช้เวลาเดินเท้าถึง 18 คืน จนมาอยูที่นี่ แต่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จนปี 2524 ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเสด็จฯ ดอยอ่างขางอีกครั้ง จึงรวบรวมความกล้า พร้อมพระพุทธรูป 7 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย และถวายฎีกาขอให้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์
มนัส เพ็ชรสุริยา เจ้าหน้าที่โครงการหลวงอ่างขาง ซึ่งตามเสด็จถ่ายภาพ เป็นคนหนึ่งที่ได้ยินรับสั่งของพระองค์ท่านที่มีต่อพ่อเฒ่านาโมในครั้งนั้น ซึ่งรับรู้ได้ถึงพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
จากวันนั้น ชาวดาราอั้งบ้านนอแล จึงได้อาศัยอยู่ที่นี่มาถึงทุกวันนี้ ไม่ต้องร่อนเร่อยู่ตามป่า อยู่อย่างอดอยากและหวาดกลัว และยังได้รับพระราชทานระบบน้ำในอีก 3 ปีต่อมา รวมทั้งได้รับการพัฒนาชีวิตจากโครงการหลวงอ่างขาง ให้รู้จักการปลูกพืชเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น จนมีชีวิตความเป็นอยูที่ดีขึ้น ซึ่งชาวดาราอั้งบ้านนอแล ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
จากชาวดาราอั้งไม่กี่ครอบครัวในวันนั้น มาจนถึงวันนี้ชุมชนขยายกลายเป็นหลายร้อยครอบครัว และอาศัยในผืนแผ่นดินไทยได้อย่างมีความสุข กลายเป็นหมู่บ้านที่เกิดขึ้นได้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือพ่อของแผ่นดินของชาวดาราอั้งบ้านนอแลและพสกนิกรไทยทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย