กทม. 8 พ.ค.-“ชูวิทย์” เสนอยกเลิก เลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อ7 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังพบข้อบกพร่อง ส่อทุจริต พบประชาชนร้องเรียนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าผิดปกติ เช่น อำนาญเจริญ หัวคะแนนนำคนสูงอายุมาเลือกข้ามเขตกว่า 7 พันคน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แถลงตั้งข้อสังเกต การเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า การเลือกตั้งล่วงหน้า เกิดจากวัตถุประสงค์ของประชาชนที่ไม่สามารถไปเลือกตั้ง ในวันที่ 14 พฤษภาคม ได้ หรือบางคนติดธุระ หรืออาจทำงานที่ต่างจังหวัด ทำให้ต้องมีการลงเลือกตั้งล่วงหน้า แต่การเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกต มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ในภาคอีสาน เช่น ขอนแก่น ศรีษะเกษ อำนาจเจริญ มีการขนคนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ โดยหัวคะแนน พาไปลงคะแนน มองว่าเป็นการวางแผนให้ซื้อเสียงล่วงหน้า และผิดวัตถุประสงค์ โดยได้ยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจน เช่น จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นจังหวัดเล็กๆ มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งเพียง 2 เขต แต่มีผู้สูงอายุลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกหน่วยแต่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน คือ คนที่อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ไปลงคะแนนเลือกตั้งในเขตที่ 2 มีจำนวน 4 ,735 คน และคนอยู่เขตเลือกตั้ง ที่ 2 ไปลงคะแนน เขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 2,554 คน รวมแล้ว 7,259 คน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ในวันเลือกตั้งจริงจะติดธุระพร้อมกันและเป็นผู้สูงอายุอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีข้อมูลว่าผู้สมัครในจังหวัดอำนาญเจริญคนหนึ่ง ยังเคยเป็นอดีต กกต.อำนาญเจริญ อีกด้วย และรู้ถึงข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นยังเห็นว่า กกต.ทำให้ประชาชนสับสนเรื่องบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ที่ให้แต่ละเขตมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครไม่ตรงกัน อีกทั้งซองที่ใส่บัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยยังเขียนเขตเลือกตั้งผิดอีกจำนวนมาก ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อคะแนนที่ประชาชนเลือก ต่างจากการเลือกตั้งในอดีตที่ให้หมายเลขพรรคการเมือง และ ส.ส.เขต เป็นเลขเดียวกัน ทำให้ประชาชนไม่สับสนในการลงคะแนน
นายชูวิทย์ ยังเสนอให้ยกเลิกการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะพบการทุจริตจำนวนมากตั้งแต่การออกแบบบัตรเลือกตั้ง จนถึงการลงคะแนนวันเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นเพราะ กกต.ไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความยุติธรรม แต่กลับมาแถลงว่าการลงคะแนนล่วงหน้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมเรียกร้องให้ กกต.ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พฤษภาคม จึงเห็นว่าเป็นคะแนนที่ไม่โปร่งใส ทั้งที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็เคยมีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่รัดกุมของเจ้าหน้าที่ประจำเขตมาแล้ว แต่ก็กลับไม่แก้ไข โดยเฉพาะการเขียนเขตเลือกตั้งบนหน้าซอง แทนที่จะประทับตราเลขเขตให้ชัดเจนเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากเจ้าหน้าที่ แต่ กกต. ก็ไม่ดำเนินการทั้งที่ใช้งบประมาณเกือบ 6,000 ล้านบาท
นายชูวิทย์ ยังเชื่อว่า หากมีการนับผลคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ จะหักปากกาเซียนของผลโพลหลายสำนัก เพราะด้วยความผิดพลาด และข้อสงสัยจำนวนมากที่เกิดขึ้น ส่วนพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็เห็นว่าจะเป็นการได้คะแนนที่ไม่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน
โดยในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ เวลา 17.00 น. จะวิ่งรณรงค์เลือกตั้งและต่อต้านกัญชา โดยเริ่มตั้งแต่สวนลุมพินี วิ่งไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และไปสิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนการปราศรัยใหญ่ของหลายๆ พรรคก่อนการเลือกตั้ง
ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ ก็จะเปิดสำนักงานต่อต้านกัญชา เพื่อร่วมติดตามการนับคะแนนเลือกตั้ง รวมทั้งรอรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่พบเห็นความผิดปกติของการเลือกตั้งในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย